ชักโครก มีกี่แบบและเลือกอย่างไรให้เหมาะกับบ้าน?

ชักโครก เป็นสุขภัณฑ์ที่มีความสำคัญกับห้องน้ำของทุกบ้าน นอกจากเรื่องของความสวยงามที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งห้องน้ำของแต่ละบ้านแล้ว ยังต้องใส่ใจในรายละเอียดเกี่ยวกับระบบต่าง ๆ ภายในอีกด้วยซึ่งหลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าชักโครกที่มีลักษณะคล้ายกันนั้น จริง ๆ แล้วมีหลายประเภทและมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกซื้อเพื่อให้ได้ชักโครกที่เหมาะกับแต่ละบ้านมากที่สุด

เทคนิคการเลือกซื้อ ชักโครก มาฝากกัน

ชักโครก เป็นสุขภัณฑ์ที่ทุกบ้านทุกสถานที่ต้องมีไว้ใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุระส่วนตัวในแต่ละวัน อาทิแบบนั่งยอง แบบสองชิ้น และชักโครกอัตโนมัติ ราคาชักโครก แต่ละประเภทมีข้อดีและประโยชน์ในการใช้งานที่แตกต่างกัน

เลือกจากรูปแบบชักโครก

ชักโครกแบบชิ้นเดียว ทำจากเซรามิกที่เชื่อมต่อเป็นชิ้นเดียวกันอย่างไร้รอยต่อ จึงทำให้ทั้งสวยงามและไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการรั่วซึม รวมถึง โถชักโครก ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสิ่งสกปรกที่มักเกิดตามรอยต่อต่าง ๆ อีกด้วย สามารถทำความสะอาดได้ง่ายเพราะช่างสามารถยกติดตั้งได้โดยไม่ต้องประกอบ ข้อเสียคือ น้ำหนักค่อนข้างมาก เคลื่อนย้ายค่อนข้างยาก ถ้าชำรุดซ่อมยากกว่าแยกชิ้น ที่สำคัญราคาค่อนข้างสูง

ชักโครกแบบแยกชิ้น สำหรับชักโครกแบบแยกชิ้นจะประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ คือ ส่วนนั่งและถังเก็บน้ำด้านหลัง ข้อดีของโถส้วมประเภทนี้คือราคาไม่แพง มีจำหน่ายเฉลี่ยตั้งแต่ 2,000 – 3,000 บาทขึ้นไป หาซื้อได้ง่าย และสามารถซ่อมแซมได้ง่ายกว่าหากเกิดปัญหาจากการติดตั้งหรือใช้งาน ซึ่งสามารถแยกซ่อมได้ นอกจากนี้น้ำหนักยังค่อนข้างเบา ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย จึงค่อนข้างเป็นที่นิยมมากกว่า แบบชิ้นเดียว แต่การติดตั้งต้องระวังเรื่องการประกอบดีๆ เพราะหากติดตั้งไม่ถูกวิธีอาจเกิดปัญหารั่วซึมได้ และข้อเสียอีกอย่างคือทำความสะอาดค่อนข้างยาก เพราะมีซอกหลืบที่มักมีสิ่งสกปรกติดอยู่มากกว่า แบบชิ้นเดียว

เลือกจากรูปแบบการติดตั้ง

ติดตั้งแบบตั้งพื้น ค่อนข้างเป็นที่นิยมทั้งการติดตั้งในบ้านหรือในห้องน้ำสาธารณะทั่วไป เพราะมีให้เลือกมากมายหลายรุ่น หลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กสำหรับเด็กไปจนถึงแบบที่รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุและผู้พิการอีกด้วย ติดตั้งไม่ยุ่งยาก ซ่อมง่าย หาอะไหล่ง่าย แต่ระบบท่อออกแบบมาแบบ S-trap ที่ต้องเจาะพื้นห้องน้ำเพื่อเดินท่อลงพื้น ซึ่งแม้ว่าจะช่วยประหยัดค่าก่อสร้างและติดตั้งแต่ก็ต้องระวังปัญหาการรั่วซึมจากการติดตั้งด้วย

ติดตั้งบนผนังหรือแบบลอยตัวทำให้ห้องน้ำดูสวยงาม หรูหรา และทำให้ดูสะอาดตาอยู่เสมอโถส้วม แบบตั้งพื้นมาก เพราะการติดตั้งต้องมีการวางแผนตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้าง โดยเฉพาะโครงสร้างผนังที่ต้องเตรียมให้แข็งแรงและรับน้ำหนักได้เพียงพอ นอกจากนี้ยังมีข้อได้เปรียบในการจัดการท่อ เนื่องจากใช้ท่อ T-trap ซึ่งเป็นท่อระบบผนังที่ไม่ต้องเจาะพื้น จึงช่วยลดโอกาสการรั่วซึมจากห้องน้ำชั้นบนสู่พื้นที่ชั้นล่าง

เลือกตามประเภทการจ่ายน้ำ

ราคาชักโครกแบบกด การจ่ายน้ำผ่านถังพักน้ำ ระบบจ่ายน้ำแบบนี้เป็นที่นิยมและพบเห็นได้ทั่วไป เหมาะสำหรับใช้ในบ้านพักอาศัยเพราะเป็นระบบที่สามารถใช้เสียงแรงดันน้ำต่ำขณะล้างและมีทั้งแบบชักโครกแบบชิ้นเดียวและแบบแยกชิ้น
การจ่ายน้ำผ่านถังพักน้ำแบบซ่อนผนัง เป็นระบบประปาที่เหมาะกับบ้านพักอาศัยอีกด้วย เพราะสามารถใช้แรงดันน้ำต่ำและเสียงเบาขณะเติมน้ำในแท้งค์น้ำ ในขณะเดียวกันก็จะสวยงามและทำความสะอาดได้ง่ายกว่าถังเก็บน้ำทั่วไป
ระบบจ่ายน้ำแบบฟลัชวาล์วซ่อนผนัง ระบบการทำงานเหมือนกับฟลัชวาล์วชนิดทั่วไป ต้องการแรงดันน้ำสูงในการล้าง เสียงดัง และใช้งานได้ต่อเนื่องเหมือนระบบฟลัชวาล์วทั่วไป แต่ข้อดีที่เพิ่มขึ้นคือความสวยงาม และดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย

เลือกตามประเภทการชำระล้าง

1. ระบบ Wash Down หลักการของระบบนี้คือการใช้น้ำใหม่ทดแทนน้ำเก่า ข้อดีคือค่อนข้างประหยัดน้ำ และมักจะออกแบบมาให้ใช้งานได้ 2 ฟังก์ชั่น คือ แบบ Single Flush ที่ปล่อยน้ำน้อยกว่า 3 ลิตรสำหรับการล้างเบาๆ และ Dual Flush ที่ปล่อยน้ำประมาณ 4.5 – 6 ลิตรสำหรับการล้างน้ำปริมาณมาก

2. ระบบ Siphonic Wash Down ระบบปฏิบัติการคล้ายกับแบบ Wash Down แต่ใช้หลักการของกาลักน้ำ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นคอห่านออกแบบให้โค้งไปด้านหลังเพื่อสร้างแรงดึงดูดที่ช่วยชะล้างสิ่งปฏิกูลในลักษณะต่าง ๆ ซึ่งปกติแล้ว จะใช้น้ำประมาณ 6 ลิตร

3. ชักโครกระบบ Siphon Jet ระบบนี้จะเน้นการทำความสะอาดที่เร็วและแรงกว่าระบบอื่นเพราะมีการออกแบบหัวฉีด (Jet Hole) ที่จะช่วยส่งน้ำให้เกิดแรงดึงดูดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็ว

4. ชักโครก ระบบ Siphon Vortex เป็นระบบทำความสะอาดที่ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากอุปกรณ์ภายในทำจากทองเหลืองที่แข็งแรงทนทาน นอกจากนี้ ยังเป็นแบบชิ้นเดียวที่มีแท้งค์น้ำต่ำกว่าแบบอื่นทำให้เสียงเบาขณะทำงานและเมื่อกดราคาชักโครกแบบกดลงในโถจะมีน้ำหมุนวนเพื่อดูดของเสียออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ข้อเสียคือใช้น้ำมากกว่าระบบอื่นเล็กน้อย ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้น้ำเฉลี่ย 9 – 12 ลิตรต่อการกดหนึ่งครั้ง

เลือกที่มีความสามารถในการเก็บกลิ่น

1. Water Surface หรือเลือกแบบหน้ากว้างเพื่อป้องกันสิ่งปฏิกูลเกาะพื้นผิว

2. Water Seal หรือกันกลิ่นได้ ควรเลือกชนิด Deep เพื่อช่วยป้องกันปัญหาการกลับมาของกลิ่นไม่พึงประสงค์

3. Trap Way หรือคอห่านควรเลือกขนาดใหญ่เพื่อช่วยป้องกันปัญหาการอุดตันจากการใช้งาน

เลือก ชักโครก ที่ฝาปิดรองนั่งคุณภาพดี

อีกหนึ่งจุดเล็กๆ ที่แม้จะดูสำคัญ แต่ก็ไม่อยากมองข้าม เพราะทุกครั้งที่ใช้ห้องน้ำควรปิดฝาชักโครกทุกครั้งเพื่อสุขอนามัยที่ดีของทุกคนในบ้าน เพื่อช่วยให้ห้องน้ำดูสะอาดน่าใช้ตลอดเวลา ปัจจุบันฝารองนั่งถูกผลิตขึ้นด้วยระบบ soft close ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการปิดฝาชักโครกหลังการใช้งาน เพียงสัมผัสหรือสะกิดเบา ๆ ฝารองนั่งจะปิดลงอย่างนุ่มนวล ไม่ส่งเสียงดังและไม่เสี่ยงต่อการแตกหักจากการกระแทกอีกด้วย