การโอนที่ดินให้บุตรโดยชอบทางกฎหมาย มีขั้นตอนและเอกสารสำคัญต่าง ๆ ที่ผู้ที่ต้องการโอนและผู้รับโอนต้องเตรียมให้ครบ เพื่อให้การดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและเสร็จสมบูรณ์ในครั้งเดียว เราจะสำรวจรายละเอียดของการโอนที่ดินในกรณีที่พ่อแม่ต้องการโอนที่ดินให้กับลูกบุตร โดยมีการยินยอมตามกฎหมายอย่างชัดเจน การเตรียมพร้อมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีความเข้าใจกันและตกลงกันอย่างชัดเจน เพื่อให้การโอนที่ดินไม่มีปัญหาใด ๆ
บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย คือใคร?
บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย คือบุตรที่ได้รับการรับรองตามกฎหมายและมีสิทธิ์ต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทำให้บุตรสามารถใช้สิทธิ์ที่เป็นของตนเพื่อเรียกร้องหรือยืนยันต่อบุคคลอื่นได้ แบบบันไดหน้าบ้าน ในทางกฎหมาย ถือว่าบุตรเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของมารดา ไม่ว่ามารดาจะมีคู่สมรสหรือไม่ เนื่องจากถือว่ามารดาเป็นผู้ที่อุ้มท้องและให้กำเนิด
ทำอย่างไรจึงเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย
ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1547 กำหนดว่าเมื่อเกิดเด็กจากบิดาและมารดาที่ไม่ได้สมรสกัน ในกรณีที่ต้องการให้เด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย มี 4 แนวทางมีดังนี้
- เด็กที่เกิดมาจากบิดาและมารดาที่ได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย
- เด็กที่เกิดมาจากบิดาและมารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่ได้ทำการจดทะเบียนสมรสกันในภายหลัง
- เด็กที่เกิดมาจากบิดาและมารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่บิดาได้ทำการจดทะเบียนรับรองบุตรในภายหลัง
- เด็กที่เกิดมาจากบิดาและมารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน และในภายหลังศาลได้มีการพิพากษาบิดาเป็นบิดาของเด็ก
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการโอนที่ดินให้บุตรโดยชอบทางกฎหมาย
เพื่อให้ทุกคนเข้าใจง่าย ๆ ถึงคำว่า บุตรโดยชอบทางกฎหมาย ลูกที่เกิดจากพ่อแม่ที่จดทะเบียนสมรสกันถือเป็นบุตรโดยชอบทางกฎหมาย ในขณะที่บุตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายคือลูกที่เกิดจากพ่อแม่ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เมื่อต้อง การโอนที่ดินให้บุตรโดยชอบทางกฎหมาย ควรทราบขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
เตรียมเอกสารให้พร้อม
- ในกรณีที่พ่อแม่มาโอนพร้อมกัน เอกสารที่ต้องมีคือ โฉนดที่ดิน บัตรประชาชนของพ่อและแม่ ทะเบียนบ้านของพ่อและแม่ ใบจดทะเบียนสมรส
- ในกรณีที่พ่อหรือแม่มาโอนคนเดียว ต้องมีเอกสารของอีกฝ่ายด้วย เช่น สำเนาบัตรประชาชนพร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง สำเนาทะเบียนบ้านพร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง และหนังสือยินยอมคู่สมรสทำนิติกรรม
- ถ้าลูกไปโอนที่ดินพร้อมกับพ่อแม่ นำบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของลูกมาด้วย
- หากลูกมอบอำนาจให้คนอื่นมาแทน ใช้สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของลูกพร้อมเซ็นสำเนาถูกต้อง บัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ที่มาทำเรื่องแทน และใบมอบอำนาจกรมที่ดิน (ท.ด.21) เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการโอน
- สำหรับกรณีมีผู้จัดการมรดก ต้องมีหลักฐานต่าง ๆ เช่น คำสั่งศาลหรือคำพิพากษาของศาล พินัยกรรมที่แต่งตั้งผู้จัดการมรดก หลักฐานการตายของเจ้ามรดก ทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวของผู้จัดการมรดก รวมถึงโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
ค่าใช้จ่ายการโอนที่ดิน
เมื่อพ่อแม่ต้อง การโอนที่ดินให้บุตรโดยชอบทางกฎหมาย ที่ยังมีชีวิต จะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ต้องคำนวณดังนี้
- ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน คิดเป็น 0.5% ของราคาประเมิน
- ค่าจดทะเบียนโอนที่ดิน คิดเป็น 0.5% ของราคาประเมิน
- ค่าอากรแสตมป์ คิดเป็น 0.5% ของราคาประเมิน
- ค่าพยาน จำนวน 20 บาท
- ค่าคำขอ จำนวน 5 บาท
- ค่าอากรคู่ฉบับ จำนวน 5 บาท
- ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คิดเป็น 5% ของราคาประเมิน (เฉพาะส่วนที่เกิน 20 ล้านบาท)
นอกจากนี้ กรณีที่โอนที่ดินให้ลูกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือในกรณีที่พ่อแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน หรือฝ่ายพ่อไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตรแต่กำเนิด มีค่าใช้จ่ายดังนี้
- ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน 0.5% จากราคาประเมิน (สำหรับการโอนให้ลูกที่ชอบด้วยกฎหมาย)
- ค่าอากรแสตมป์ 0.5% หรือภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% จากราคาประเมิน (เลือกได้)
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามขั้นบันได จากราคาประเมิน หักค่าใช้จ่ายได้ 50%
สำหรับกรณีโอนที่ดินให้ญาติฝ่ายอื่นที่ไม่ใช่ลูก ไม่ว่าจะเป็นพี่น้อง พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย หลาน หรือแม้แต่ยกที่ดินให้ลูกบุญธรรม มีค่าใช้จ่ายดังนี้
- ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2.0% จากราคาประเมิน
- ค่าอากรแสตมป์ 0.5% หรือภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% จากราคาประเมิน
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามขั้นบันได จากราคาประเมิน หักค่าใช้จ่ายได้ 50%
ขั้นตอนการโอนที่ดินให้บุตรโดยชอบทางกฎหมาย
เมื่อคุณต้อง การโอนที่ดินให้บุตรโดยชอบทางกฎหมาย มีขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและถูกต้อง ดังนี้
- เริ่มต้นด้วยการหยิบบัตรคิวเพื่อรอตรวจสอบเอกสารกับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ หรือหยิบใบคำขอพร้อมแนบเอกสารทั้งหมดที่เตรียมไว้ล่วงหน้า
- นำเอกสารและใบคำขอไปยื่นที่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ตรวจเช็คความถูกต้องของเอกสารที่เตรียมมา หากตรวจสอบเรียบร้อยก็จะได้คิวเพื่อไปดำเนินเรื่องต่อที่ฝ่ายชำนาญงาน
- การยื่นเรื่องที่ฝ่ายชำนาญงาน มีขั้นตอนการลงลายมือชื่อทั้งผู้รับและผู้โอน จากนั้นทำการประเมินราคาที่ดินพร้อมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อนำไปชำระที่ฝ่ายการเงิน
- ชำระเงินที่ฝ่ายการเงิน เมื่อชำระเงินที่ฝ่ายการเงินแล้ว นำใบเสร็จไปยื่นที่ฝ่ายชำนาญงาน โดยใบสีฟ้าจะต้องถูกเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนใบสีเหลืองจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่
- ตรวจสอบข้อมูลสลักหลังโฉนด เจ้าหน้าที่ฝ่ายชำนาญงานจะพิมพ์ข้อมูลสลักหลังโฉนดและยื่นให้คุณตรวจสอบ ทุกอย่างเรียบร้อยก็เป็นการโอนที่ดินให้บุตรโดยชอบทางกฎหมายได้เสร็จสมบูรณ์
ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนที่ควรรู้สำหรับผู้ที่ต้อง การโอนที่ดินให้บุตรโดยชอบทางกฎหมาย หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด ติดตั้งกล้องวงจรปิด และประสบการณ์การโอนที่ดินที่ไม่ซับซ้อนตามกฎหมายที่ดิน
ระยะเวลาในการดำเนินการโอนที่ดิน
การ โอนที่ดิน ในกรณีที่พ่อและแม่ต้องการโอนให้บุตรโดยชอบทางกฎหมายสามารถดำเนินการได้ภายในเวลาเร็วที่สุดเพียง 1 วัน โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ในกรณีที่เอกสารสำคัญต่าง ๆ ครบถ้วน การโอนที่ดินมีลักษณะต่าง ๆ ซึ่งไม่เพียงแค่การโอนให้บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น ยังรวมถึงการโอนให้บุตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย การโอนให้ทายาท และรูปแบบการโอนแบบซื้อ-ขาย ที่มีรายละเอียดและเอกสารสำคัญที่แตกต่างกัน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับการโอนที่ดินทั้งหมด สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของ กรมที่ดิน จะมีข้อมูลอัพเดทและคำแนะนำเพื่อความรวดเร็วและถูกต้องในการดำเนินการ
บทสรุป
การโอนที่ดินให้บุตรโดยชอบทางกฎหมาย ด้วยการปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องและใส่ใจในรายละเอียดทุกด้าน สามารถทำให้การโอนที่ดินให้บุตรเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้องทางกฎหมายได้ เพื่อให้ทรัพย์สินถูกสืบทอดอย่างสมบูรณ์แบบ และไม่เกิดปัญหาทางกฎหมายในอนาคตได้