ห้องนอนเปรียบเสมือนจุดหมายปลายทางสำหรับวันทำงานอันแสนเหนื่อยล้า การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับคุณคือความสะดวกสบาย จะเพิ่มบรรยากาศแห่งความสุขและเปลี่ยนโหมดการพักผ่อนให้สดชื่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่วิ่งตามความฝัน หรือต้องการให้งานใดบรรลุเป้าหมาย การพักผ่อนในห้องนอนที่คุณชื่นชอบจะทำให้มีแรงต่อสู้กับวันต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น มีเพียงไม่กี่ขั้นตอนในการเริ่มเปลี่ยนห้องนอน และสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยการทาสีห้องนอนของคุณในเฉดสีที่คุณชอบ
ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวช่วยเสริมสิริมงคลให้กับเจ้าของห้องตามความเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นโทนสีเข้มหรือสีอ่อนก็ควรเลือกให้เหมาะเพื่อช่วยให้นอนหลับสบายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และยังช่วยเสริมดวงชะตา เสน่ห์ สุขภาพของผู้อยู่อาศัย แต่จะเลือกอย่างไร เรานำมาแนะนำให้คุณได้ตัดสินใจ
แนะนำโทน สีห้องนอน ที่ทำให้หลับสบาย
สีสันในห้องนอนไม่เพียงแต่สะท้อนถึงรูปลักษณ์ภายนอกของห้องเท่านั้น นอกจากนี้ยังส่งผลต่อความรู้สึกของคุณที่มีต่อตัวเองด้วย เพื่อหลีกหนีความจำเจและปลุกอารมณ์ที่หลากหลาย ขอแนะนำให้คุณเลือกโทนสีผสมกัน 2-3 โทนสีโดยใช้สูตร 60:30:10 โดย 60% เป็นสีของผนังและเพดานในห้องนอน 30% เป็นสีของหัวเตียงหรือปลายเตียง และ 10% เป็นสี ประตู วงกบ หน้าต่าง บัวพื้นฝ้าเพดาน สีทาภายในโทนเย็น สร้างความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย โทนสีอบอุ่นทำให้เกิดบรรยากาศที่ดี อาจเพิ่มโทนสีเข้มหรือโทนอุ่นเพื่อกระตุ้นการเคลื่อนไหว เราได้นำโทนสีที่ได้รับความนิยมมาแนะนำสำหรับคุณ มีรายละเอียดดังนี้
โทนสีขาว-เทาอ่อน
สีขาวทำให้ห้องดูใหญ่ขึ้นและปรับบรรยากาศในห้องให้ดูผ่อนคลาย ช่วยสะท้อนแสงจากภายนอกที่ส่องเข้ามาทำให้ตื่นนอนอย่างสดชื่นทุกวัน
โทนสีเทาให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา เข้าได้กับหลายเฉดสี อาจเลือกใช้สีเทากับเครื่องนอน เมื่อรวมกับโทนสีอบอุ่นของเฟอร์นิเจอร์ไม้ (เช่น หัวเตียงไม้หรือโครงไม้บนผนัง) ก็ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมาก
โทนสีฟ้า
หากห้องนอนของคุณดูเก่าและไม่มีชีวิตชีวา ลองเปลี่ยนสีห้องนอนเป็นสีฟ้าน้ำทะเลหรือสีฟ้าคราม ซึ่งเป็นสีโทนเย็นที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้หลับสบาย จะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเบิกบานและสดชื่น อาจเลือกจับคู่กับโทนสีขาว เทาอ่อน และเขียวอมเทาเพื่อให้ห้องนอนดูอบอุ่นน่าอยู่ยิ่งขึ้น
โทนสีเขียว
ไม่ว่าจะเลือกเฉดสีใด สีเขียวก็เป็นตัวแทนของธรรมชาติเสมอ โดยเฉพาะสีเขียวอ่อนหรือเขียวอมเทาที่จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายตา เสมือนได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ นอกจากนี้สีเขียวยังเข้ากับของแต่งห้องและห้องนอนหลากสไตล์อีกด้วย
โทนสีชมพู
น้อยคนนักที่จะรู้ว่าสีชมพูเป็นเหมือนยาอายุวัฒนะที่ทำให้รู้สึกสดชื่นสดใสเมื่อตื่นนอน ช่วยกระตุ้นพลังงานในร่างกายให้พร้อมรับเช้าวันใหม่
หากคุณไม่มั่นใจที่จะใช้สีชมพูทั้งห้อง ลองเปลี่ยนมาใช้สีชมพูอมเทาหรือตกแต่งมุมใดมุมหนึ่งด้วยสีชมพู อาจเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สีชมพูผสมกับคู่สีเทาเข้มหรือใช้เครื่องนอนในโทนสีชมพูแทน ห้องนอนจะดูหรูหราและสบายตายิ่งขึ้น
โทนสีม่วง
สีม่วง สื่อถึงความเป็นตัวของตัวเองสูง เหมาะสำหรับนักคิดสร้างสรรค์ แต่งห้องนอนด้วยสีเทาอมม่วงอ่อน สีม่วงอมชมพู หรือสีม่วงลาเวนเดอร์ สีห้องนอนสวยๆ นอกจากจะดูสวยงามหรูหราแล้ว ยังกระตุ้นพลังความคิดอีกด้วย บันดาลใจให้มีความหมาย น่าค้นหา พร้อมออกไปสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
โทนสีน้ำเงิน
โทนสีฟ้าให้ความรู้สึกเข้มแข็ง สุขุม ซื่อสัตย์ จริงใจ และมีความรับผิดชอบ แต่แนะนำให้เลือกเฉพาะสีรองพื้นหรือสีไฮไลท์ เพื่อไม่ให้ห้องนอนของดูทึบจนเกินไป สามารถจับคู่กับสีขาวควันบุหรี่ สีเทาอ่อน หรือลดขนาดลงเป็นเฉดสีกรมท่าหรือสีคราม ผสมผสานกับเครื่องนอนโทนสีอ่อนหรือโทนสีธรรมชาติ จะทำให้ร่างกายของเราสงบและตื่นขึ้นพร้อมกับพลังในการสร้างสรรค์
โทนสีน้ำตาล
โทนสีน้ำตาลสื่อถึงความอบอุ่น จริงใจ แต่ผ่อนคลาย โดยเฉพาะเฉดสีคาราเมลอ่อน ๆ ที่สร้างความรู้สึกอบอุ่น โรแมนติก และเป็นธรรมชาติ จึงเหมาะกับบรรยากาศของห้องนอน อีกทั้งยังส่งผลให้เมื่อตื่นนอนจะได้บรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเองอีกด้วย
โทนสีเหลือง
สีสดใส เช่น สีเหลือง ให้ความรู้สึกตื่นตัวตลอดเวลา อาจจะดูไม่เหมาะที่จะใช้เป็นสีหลักในห้องนอน เพราะอาจจะทำให้คุณนอนไม่หลับได้ หากทาเป็นสีรองพื้นหรือไฮไลท์ในโทนสีเหลืองอ่อน สีเหลืองมัสตาร์ด ผสมกับสีขาว สีเทา หรือสีน้ำตาล โทนสีนี้สร้างความสุขได้ตั้งแต่ตื่นนอน และพร้อมเผชิญโลกกว้างอย่างมั่นใจได้เป็นอย่างดี
สีทาห้องนอน ควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
ห้องนอนเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เราใช้งานมากที่สุด นอกจากนี้ยังสำคัญมากเพราะเป็นการเพิ่มพลังงานให้กับวันใหม่ทุกวัน ไม่ว่าจะเรียนหรือทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ชีวิตคนเราใช้เวลานอนมากกว่า 35% ต่อวัน ดังนั้นการเลือกสีทาห้องนอน ก็ต้องดีต่อใจของเราด้วย เพราะหากจิตใจไม่ดีร่างกายก็จะแย่ไปด้วยอย่างแน่นอน สีห้องนอนต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง มาดูกัน
1. สีทาห้องนอน ปลอดภัยจากสารพิษอันตราย
ก่อนอื่นต้องปลอดสารพิษ เพราะสารพิษที่มักมากับสี ได้แก่ VOCs สารอินทรีย์ระเหยง่าย หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อสารระเหย ผลที่ใครสัมผัสโดนสารนี้เข้าร่างกาย แรก ๆ จะแสบตา แสบจมูกทำให้หายใจลำบาก หลังจากนั้น จะมีอาการหน้ามืดและเป็นลมหากได้รับในปริมาณมากอาจทำให้หมดสติได้ แต่หากสะสมไว้ในร่างกายนานเข้าก็จะเกิดอันตรายต่อร่างกายถึงขั้นทำลายเยื่อหุ้มปอดในที่สุด สาร VOCs มีการใช้ในหลายอุตสาหกรรมรวมถึงผลิตภัณฑ์สีทาบ้าน ดังนั้นหากจะเลือกสีทาห้องนอนหรือสีทาบ้านต้องคำนึงถึงค่า VOCs ว่าควรเป็นศูนย์หรือต่ำ เพื่อให้คนในบ้านปลอดภัยที่สุด รวมถึงคุณสมบัติที่ปราศจากสารปรอทและสารตะกั่ว ซึ่งเป็นโลหะหนัก เป็นอันตรายต่อร่างกายไม่แพ้สาร VOCs เลยทีเดียว
2. สีทาห้องนอนต้องช่วยฟอกอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้าน
หากสีที่ใช้ทาภายในปราศจากสารเคมีก็ทำหน้าที่ดูดซับสารพิษด้วย เป็นที่ทราบกันดีว่าของใช้ในบ้านหลายอย่างไม่ได้ปลอดภัยไร้สารพิษ 100% เพราะส่วนผสมในการผลิตล้วนแต่เป็นสารเคมีทั้งสิ้น สารเคมีปนเปื้อนที่แฝงอยู่ในบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการระคายเคือง โรคระบบทางเดินหายใจ รวมถึงเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งอีกด้วย ฟอร์มาลดีไฮด์มักปนเปื้อนมากับของใช้ในบ้าน เช่น ผ้าม่าน หมอนใยสังเคราะห์ ไม้อัด ซึ่งเป็นสิ่งใกล้ตัวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งของชิ้นไหนปนเปื้อนสารพิษ ดังนั้นเราจึงเลือกสีที่ไม่มีสารพิษ จะช่วยดูดซับสารพิษได้เป็นอย่างดี
3. สีทาห้องนอน ทำความสะอาดง่าย ป้องกันเชื้อรา
วิวัฒนาการของสีในปัจจุบันมีข้อดีและคุณสมบัติมากมายที่เราควรเลือกใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การที่สีทาภายในมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดง่าย ไม่ว่าจะเป็นความสกปรกจากฝุ่น ควัน ที่ปัจจุบันมีเรื่องของ PM 2.5 เกิดขึ้นมากมาย หากติดผนังแล้วทำความสะอาดได้ จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อคนในบ้าน โดยเฉพาะเด็ก และผู้สูงอายุเอง