ด้วยการออกแบบบ้านที่ทันสมัย รั้วตาข่ายกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความสวยงามและคงทนของมัน อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อรั้วตาข่ายที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณนั้นมีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาการเลือกวัสดุที่คงทน มีคุณภาพสูง และสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงการออกแบบและรูปแบบที่สวยงามและเข้ากับบรรยากาศของบ้านด้วย ไม่ว่าคุณต้องการความเป็นส่วนตัว, ความปลอดภัย, หรือเพียงแค่ต้องการตกแต่งให้สวนสวยงามยิ่งขึ้น การเลือกรั้วตาข่ายที่ถูกต้องจะช่วยตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน
รั้วตาข่าย คืออะไร ?
รั้วตาข่าย คือรั้วที่ผลิตจากลวดเหล็กคุณภาพสูง มีความแข็งแรง ทนต่อสนิม และมีอายุการใช้งานยาวนาน ขึ้นอยู่กับประเภทของลวดที่ใช้ในการผลิต เช่น ลวดเหล็กทั่วไป ลวดแรงดึง หรือลวดแรงดึงสูง ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานและยืดอายุการใช้งานได้มากกว่ารั้วลวดหนามทั่ว ๆ ไป เป็นรั้วที่ถูกออกแบบให้มีรูพรุนเป็นช่องสี่เหลี่ยมหรือรูปผืนผ้า ด้านล่างมีช่องถี่ขึ้น ส่วนด้านบนมีช่องห่างกันออกไป ทำให้สามารถมองเห็นได้โดยรอบ
จึงเหมาะสำหรับใช้ล้อมบ้าน สวน ที่ดิน คอกสัตว์ หรือพื้นที่ต่าง ๆ ที่ต้องการความปลอดภัยแต่ยังคงเปิดโล่งสบาย นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งกับเสาปูน เสาไม้ หรือเสาเหล็กที่มีอยู่เดิมได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องรื้อถอน จึงนิยมนำไปใช้ล้อมบริเวณบ้าน สวน โรงงาน โรงเรียน สนามกีฬา บันไดหนีไฟ หรือสถานที่ต่าง ๆ ที่ต้องการความปลอดภัยแต่ไม่อึดอัด
ทำไมต้องติดตั้งรั้วตาข่าย?
รั้วตาข่ายหรือรั้วลวดหนามเป็นทางเลือกที่เหมาะ สำหรับการล้อมรั้วบ้านหรือด้านหน้าของสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสวยงาม โดยมีข้อดีดังนี้
- มีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง
- สามารถนำมาประยุกต์ใช้ทำประตูรั้วและคอกสัตว์ได้
- ช่วยป้องกันการบุกรุกและกันไม่ให้สัตว์เล็ดลอดเข้ามาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีราคาไม่แพงและติดตั้งได้ง่าย
- สามารถติดตั้งร่วมกับเสารั้วลวดหนามหรือใช้เสาที่มีอยู่แล้ว เช่น เสาไม้ เสาเหล็ก
- สามารถวางเสาห่างกันได้มากกว่าการใช้ลวดหนามทั่วไป
ประเภทของรั้วตาข่าย
รั้วคือสิ่งก่อสร้างที่ใช้ในการแบ่งเขตพื้นที่ต่าง ๆ เช่น บ้าน สวน ไร่นา ถนน และโรงงาน มีหลายประเภทที่นิยมใช้ดังนี้
- รั้วลวดหนาม เป็นรั้วที่คนไทยคุ้นเคยเนื่องจากมักพบเห็นได้บ่อย ติดตั้งง่ายด้วยการขึงลวดหนามกับเสาปูนหรือเสาไม้
- รั้วตาข่ายถัก มีลักษณะเป็นรูถักเชื่อมต่อกัน นิยมใช้ทำรั้วสนามกีฬาเพราะช่วยป้องกันอุปกรณ์กีฬาลอดออกนอกสนาม อาจเป็นรั้วตาข่ายถักธรรมดาหรือเคลือบด้วย PVC
- รั้วไวร์เมช ประกอบด้วยลวดเหล็กถักเป็นช่องตาข่าย นิยมใช้ทำรั้วตามทางด่วน ถนน และบริเวณบ้าน มีความแข็งแรงทนทาน
รั้วแต่ละประเภทมีข้อดีและลักษณะเฉพาะที่เหมาะสมกับการใช้งานและสถานที่ต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยและการแบ่งแยกพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เลือกรั้วตาข่ายอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
- ขนาดของเส้นลวด
การเลือกซื้อรั้วตาข่ายที่มีคุณภาพนั้นสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของขนาดเส้นลวด ซึ่งควรมีขนาด 2.5 มิลลิเมตร ตามมาตรฐานการผลิต ขนาดนี้จะทำให้รั้วตาข่ายมีความแข็งแรง สามารถรับแรงกระแทกได้ดี ไม่หักงอหรือขาดง่าย บางยี่ห้ออาจใช้เส้นลวดที่มีขนาดเล็กกว่ามาตรฐาน เช่น 2.0-2.2 มิลลิเมตร เพื่อลดต้นทุนการผลิต แต่ก็จะทำให้รั้วตาข่ายมีความแข็งแรงน้อยลง สามารถรับแรงดึงและแรงกระแทกได้น้อยกว่า อาจเกิดการชำรุดเสียหายได้ง่าย เมื่อเลือกซื้อรั้วตาข่ายหรือคอนกรีต สิ่งสำคัญที่ควรตรวจสอบคือขนาดของเส้นลวด โดยควรเลือกรั้วตาข่ายที่มีขนาดเส้นลวดมาตรฐาน 2.5 มิลลิเมตร เพื่อให้ได้รั้วที่มีคุณภาพ แข็งแรง ทนทาน และคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
- ลักษณะของปม
ปมถือเป็นส่วนสำคัญในการเลือกซื้อรั้วตาข่าย เนื่องจากบางยี่ห้อลดต้นทุนโดยการลดขนาดของปม ส่งผลให้ปมหลุดง่ายและไม่แข็งแรง เมื่อได้รับแรงกระแทกจากคน สัตว์ หรือสิ่งอื่น ๆ รั้วตาข่ายที่ดีควรมีปมขนาด 3-5 ปม เพื่อให้ทนทานต่อแรงกระแทก และสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานในทุกสภาพการณ์
- รอยหยักของเส้นลวด
รั้วตาข่ายมีรอยหยักในแต่ละช่องเพื่อช่วยรับแรงกระแทกได้ดีขึ้น เปรียบเสมือนสปริงที่สามารถคืนตัวได้เมื่อถูกกระแทก หากรั้วตาข่ายไม่มีรอยหยัก เมื่อถูกแรงกระแทกอย่างรุนแรง รั้วอาจจะขาดหรือหย่อนตัวจนไม่สามารถคืนสู่สภาพเดิมได้ ดังนั้น รั้วตาข่ายที่ดีควรมีรอยหยักสลับขึ้นลงในแต่ละช่อง เพื่อช่วยรับแรงกระแทกและคืนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แรงดึงของเส้นลวด
การประเมินแรงรับน้ำหนักของเส้นลวดรั้วตาข่ายด้วยตาเปล่าค่อนข้างยาก วิธีที่ดีคือสอบถามจากผู้ขายว่ารั้วประเภทนี้สามารถรับแรงกดได้ประมาณกี่กิโลกรัม หรือหากต้องการทดสอบด้วยตนเอง สามารถลองงอเส้นลวดรั้วตาข่ายเพื่อประเมินแรงดึงเบื้องต้นได้ หากเส้นลวดอ่อนตัวและงอง่าย แสดงว่ามีความสามารถในการรับแรงดึงน้อย แต่หากเส้นลวดแข็งแรง เหนียว และงอหักได้ยาก แสดงว่าเส้นลวดนั้นสามารถรับน้ำหนักได้ดีเยี่ยม
- มาตรฐานการผลิต
การเลือกใช้รั้วตาข่ายคุณภาพดีนั้นมีความสำคัญ เนื่องจากรั้วตาข่ายบางประเภทที่นำเข้าจากประเทศจีนอาจมีคุณภาพต่ำ ลวดที่ใช้ชุบสังกะสีหรือซิงค์มีความบริสุทธิ์น้อย และอาจมีสารอื่นเจือปน เพื่อลดต้นทุนการผลิต ส่งผลให้ลวดชุบซิงค์ไม่หนาแน่น เกิดการหลุดกร่อนและเป็นสนิมได้ง่าย อายุการใช้งานสั้น ไม่ทนทานต่อสภาพแวดล้อม
ดังนั้น รั้วตาข่ายไวน์จึงได้ผลิตตามมาตรฐาน ASTM ซึ่งเป็นมาตรฐานการชุบซิงค์ที่ยอมรับในระดับสากล เนื่องจากมีความบริสุทธิ์และความหนาแน่นของซิงค์สูงสุดในปัจจุบัน มาตรฐาน ASTM ไม่เพียงควบคุมความหนาของซิงค์เท่านั้น แต่ยังควบคุมมาตรฐานขนาดความหนาของลวดด้วย ท่านจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพสูง
วิธีการล้อมรั้วตาข่าย
- เตรียมหลุมและติดตั้งเสา
ขุดหลุมและเทปูนติดตั้งเสาให้มั่นคง โดยเน้นให้เสาต้นแรกและต้นสุดท้ายมีความแข็งแรงมากเป็นพิเศษ ติดตั้งเสาค้ำยันทุก ๆ 5-10 ต้น หรือตามระยะที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มความมั่นคง ระยะห่างระหว่างเสาที่แนะนำคือ 2-2.5 เมตร หากต้องการระยะห่างมากกว่านี้ จำเป็นต้องอาศัยเทคนิคการติดตั้งของช่างผู้ชำนาญ
- คลี่และยึดตาข่าย
คลี่ตาข่ายออกจากม้วน และผูกปลายตาข่ายเข้ากับเสาต้นแรกให้แน่นหนา ดึงตาข่ายให้ตึงด้วยการใช้รอกลวด จากนั้นผูกปลายอีกด้านเข้ากับเสาต้นสุดท้ายให้แน่น
- ยึดตาข่ายกับเสา
ผูกยึดตาข่ายเข้ากับเสาทุกต้น หากใช้เป็นรั้วลวดหนาม สามารถสอดเข้ารูเสาหรือใช้กิ๊บยึดลวดหนามได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตาข่ายได้รับการยึดแน่นกับเสาทุกต้น
สรุป
รั้วตาข่ายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายไม่สูงติดตั้งง่าย รั้วประเภทนี้ออกแบบมาให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเสารั้วคอนกรีต ไม้ หรือเหล็กได้ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณบ้านพักอาศัย สวน หรือพื้นที่กว้าง ๆ เช่น โรงเรียน และสนามกีฬา นอกจากจะให้ความปลอดภัยในการป้องกันสัตว์และคนแล้ว รั้วตาข่ายยังมีความโปร่งใสทำให้สามารถมองเห็นบริเวณโดยรอบได้ มีทั้งความปลอดภัยและให้ทัศนียภาพที่ดี จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการล้อมรั้วพื้นที่ของตนเอง