การปลูกผักชี เป็นผักก้นครัวที่เราคุ้นเคยและรู้จักกันอย่างดี เป็นส่วนหนึ่งของอาหารไทยหลากหลายเมนู ใช้เพิ่มรสชาติและสีสันให้กับอาหาร สามารถใช้โรยหน้าอาหาร เพิ่มความอร่อยและสวยงาม หรือใส่ในน้ำจิ้มหรือน้ำแกง หรือใช้ในยำต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย ถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการทำอาหารของคนไทย จึงเป็นที่ต้องการของตลาด หากต้องการปลูกผักชีไว้กินเองนั้น ก็มีวิธีการปลูกที่ ไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากนัก มีวิธีการดูแลที่ง่าย ดังนั้นเป็นทางเลือกที่ดี เพื่อลดค่าใช้จ่ายหรือจะเป็นทางเลือกในการทำธุรกิจเพื่อจำหน่ายได้เช่นกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำเรื่องของการปลูก เพื่อจะมีความรู้ความเข้าใจเพิ่มมากยิ่งขึ้น นำความรู้การปลูก ผักชี แบบ ง่ายๆ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างง่ายดายนั่นเอง
ผักชี คือ
ผักชีเป็นพืชสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและเป็นพืชล้มลุกที่มีอายุสั้นเพียง 40-60 วันเท่านั้น ในประเทศไทยเรามักปลูกผักชีพันธุ์สิงคโปร์ พันธุ์สิงคโปร์เมล็ดดำ และพันธุ์ไต้หวันเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ผักชีมีความสำคัญในการใช้ปรุงอาหารของคนไทย ซึ่งมักนำมาใช้เป็นเครื่องเทศในน้ำซุปและเป็นเครื่องเคียงอื่น ๆ นอกจากนี้ ผักชียังมีความสามารถในการดับกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ได้อีกด้วย ผักชีสามารถนำมาปรุงอาหารได้ทุกส่วนของต้น นั่นเป็นเหตุผลที่ผักชีมีความสำคัญในการทำอาหารไทย ไม่ว่าจะเป็นราดน้ำซุปหรือใส่เครื่องเทศในเมนูต่าง ๆ
สิ่งที่ต้องเตรียมในการปลูกผักชี
สิ่งที่ต้องเตรียมในการปลูกผักชี เพื่อให้การปลูกเป็นไปได้ด้วยความสำเร็จและมีผลผลิตที่ดี นี่สิ่งที่คุณควรเตรียมมีดังนี้
- เมล็ดพันธุ์ เลือกใช้เมล็ดพันธุ์ผักชีจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบวันที่ผลิตและหมดอายุที่ระบุชัดเจน อย่าเลือกใช้เมล็ดที่เก่าเก็บเพราะอาจทำให้เมล็ดงอกยาก และควรเลือกเมล็ดที่สะอาดและปราศจากเชื้อโรคเชื้อรา
- ดินปลูก หากคุณมีความรู้ในการผสมดิน สามารถผสมวัสดุปลูกและส่วนผสมเองได้ แต่หากไม่มีเวลาหรือความรู้ สามารถซื้อดินปลูกสำเร็จรูปจากร้านค้าได้ ควรเลือกดินที่ผลิตสดใหม่ ไม่เคยค้างและมีความร่วนซุย
- กระถาง เลือกใช้กระถางที่มีขนาดเหมาะสม ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ให้พอประมาณกับการเพาะปลูกผักชี
- กาบมะพร้าวสับ ใช้เป็นรองก้นกระถางก่อนเพื่อช่วยในการระบายน้ำ ก่อนใช้ควรแช่กาบมะพร้าวสับในน้ำเพื่อล้างสารแทนนินออกก่อนการใช้งาน
วิธีการปลูกผักชี มีขั้นตอนอย่างไร?
การปลูกผักชีเป็นเรื่องง่ายที่สามารถทำได้อย่างสะดวกสบาย มีขั้นตอนดังนี้
- เลือกเมล็ดพันธุ์ผักชีที่นิยมปลูก เช่น เมล็ดผักชีพันธุ์สิงคโปร์และเมล็ดผักชีไต้หวัน คุณสามารถหาซื้อได้ง่ายที่ท้องตลาดทั่วไป ควรเลือกเมล็ดพันธุ์ที่เป็นใหม่เพราะเมล็ดเก่าอาจไม่งอก
- สำหรับปลูกผักชีสามารถปลูกในกระถางหรือในแปลงดินได้ หากปลูกในกระถางเหมาะสำหรับการใช้เพื่อรับประทานเอง ส่วนการปลูกในแปลงดินเหมาะสำหรับการจำหน่าย ในกรณีปลูกในแปลงดิน คุณควรขุดหรือพรวนดินขึ้นมาและตากแดดไว้ ประมาณ 5-7 วัน จากนั้นควรพรวนดินซ้ำเพื่อให้ดินมีความร่วน และคลุกเคล้าดินกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยสด
- เมื่อได้เมล็ดพันธุ์ผักชีมาแล้ว คุณควรบดเมล็ดผักชีให้แตกเป็นสองส่วน นำเมล็ดไปแช่น้ำ 1-3 วัน โดยแนะนำให้ห่อไว้ด้วยผ้าและกดทับให้มิดจมน้ำ การบดเมล็ดผักชีจะช่วยให้ผักชีเจริญเติบโตเร็วขึ้น
- เมื่อเมล็ดผักชีแช่น้ำแล้ว นำไปผึ่งให้แห้ง แล้วนำไปหว่านในแปลงดินหรือกระถางที่เตรียมไว้
- การรดน้ำและกำจัดวัชพืช ผักชีต้องการน้ำมาก คุณควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ วันละ 2 ครั้ง อย่าให้น้ำขังเกินไป เพราะจะทำให้ผักชีเน่า ในการกำจัดวัชพืชควรทำทันทีโดยใช้มือถอน วัชพืชเป็นตัวแย่งน้ำจากผักชี ทำให้ผักชีไม่เจริญเติบโต
การใส่ปุ๋ยผักชี
การใส่ปุ๋ยเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการปลูกผักชี เพื่อให้พืชเจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่ดีขึ้น หนึ่งในวิธีการใส่ปุ๋ยที่สามารถนำมาใช้ได้คือการใช้น้ำแช่ปุ๋ยคอก เช่น มูลโค กระบือ ไก่ หรือ หมู โดยการแช่น้ำให้ปุ๋ยคอกนั้นสารสกัดไปอยู่ในน้ำ เพื่อเป็นแหล่งประโยชน์ที่สามารถนำไปใช้ในการให้น้ำพืชในแปลงผักชี อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำแช่ปุ๋ยคอกต้องมีขั้นตอนที่ถูกต้องเพื่อให้ปุ๋ยคอกเป็นประโยชน์มากที่สุด
ในการใช้น้ำแช่ปุ๋ยคอกคือการนำปุ๋ยคอกเข้าไปแช่ในน้ำในถัง แล้วทิ้งไว้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ เพื่อให้ปุ๋ยคอกสารสกัดได้ระเหยออกมาทั้งหมดในน้ำ และทำให้ปุ๋ยคอกนั้นเป็นน้ำปุ๋ยคอก หลังจากนั้น น้ำปุ๋ยคอกที่เกิดจากการแช่น้ำสามารถนำมารดให้กับแปลงผักชีได้ โดยควรรดน้ำปุ๋ยคอกในแปลงผักชีประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเพิ่มเข้าไปร่วมกับการให้น้ำปกติที่พืชต้องการ การใช้น้ำปุ๋ยคอกร่วมกับน้ำปกติจะช่วยให้พืชได้รับสารอาหารจากปุ๋ยคอกอย่างเพียงพอเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช
การเก็บเกี่ยวผักชี
หลังการปลูกผักชี ปลูกฟักทอง การเก็บเกี่ยวผักชีต้องมีอายุประมาณ 40-45 วัน สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้แล้ว ก่อนที่จะเก็บเกี่ยวผักชี ควรรดน้ำให้แปลงดินซึ่งจะช่วยให้การถอนต้นผักชีเป็นเรื่องง่าย ทำให้ต้นผักชีไม่หลุดราก การเก็บเกี่ยวผักชีสามารถทำได้โดยการใช้มือจับที่โคนรากแล้วถอนดึงขึ้นมา จากนั้นสะบัดดินออก แล้วล้างให้สะอาดด้วยน้ำ คัดเลือกใบที่เป็นสีเหลืองหรือใบที่เน่าออก ต้นผักชีที่มีสีเขียวสม่ำเสมอจะขายได้ในราคาที่ดี โรคและแมลงศัตรูของผักชีที่พบบ่อยคือโรคใบเน่าใบเหลืองและเพลี้ย วิธีแก้ไขคือใช้การฉีดพ่นสารเคมีตามคำแนะนำ สรุปมาถึงผักชีที่เป็นผักที่ตลาดต้องการและมีราคาสูง ผักชีมีประโยชน์มากทั้งต้นและใบที่ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหาร ส่วนรากผักชีนำมาใช้ในการตำเพราะมีกลิ่นหอมซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารทำให้อร่อยขึ้น
สรรพคุณและประโยชน์ของผักชี
ผักชีไทยไม่ใช่แค่ส่วนประกอบในการโรยหน้าอาหารเท่านั้น แต่มีประโยชน์มากมายเนื่องจากมีส่วนประกอบที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ผักชีมีปริมาณวิตามินซีและวิตามินเคสูง รวมถึงโปรตีนอีกด้วย นอกจากนี้การปลูกผักชีในกระถางยังมีสารที่ช่วยในการดูแลสุขภาพอีกด้วย
- ผักชีไทยสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีต่อร่างกาย และเสริมการผลิตคอเลสเตอรอลที่ดีต่อร่างกายให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยเสริมระบบย่อยอาหารและมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต่อต้านมะเร็งได้อีกด้วย
- รากผักชีเป็นเครื่องเทศที่นิยมใช้ในการหมักเนื้อสัตว์เพื่อกำจัดกลิ่นคาวและเพิ่มความหอม โดยเฉพาะในอาหารที่ถูกปิ้งย่าง รากผักชียังมีประโยชน์ในการไล่พิษไข้เหือด หิด และอีสุกอีใส
- ลำต้นและใบของผักชีมีสารอาหารอย่างโพแทสเซียม แคลเซียม และไฟเบอร์ มีสรรพคุณที่ช่วยป้องกันหวัด ช่วยขับเหงื่อ บรรเทาอาการแก้ไอ สลายเสมหะ ขับลมแก้ท้องอืด ช่วยย่อยอาหาร และบรรเทาอาการคัน สามารถนำผักชีมาตำแล้วนำไปโปะบริเวณที่คันได้
การใช้ผักชีในการทำอาหาร ใช้ได้ทุกส่วน
ทุกส่วนของผักชีสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ตั้งแต่ใบ ก้าน ราก และโดยทั่วไปผักชีมักถูกนำมาบริโภคในรูปแบบผักสด และใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารได้หลายชนิด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติของอาหารให้อร่อยขึ้นด้วยผักชีที่ปลูกกันแพร่หลายในประเทศไทยมี 2 ชนิดหลัก คือ พันธุ์พื้นเมือง มีลักษณะใบบาง ต้นเล็ก มีเมล็ดเล็ก ออกดอกเร็ว อายุสั้น และมีกลิ่นหอมมากจนเป็นกลิ่นฉุน และพันธุ์อาฟริกา มีลักษณะใบใหญ่หนา ต้นใหญ่ ต้นไม้ยืนต้น มีกลิ่นหอมเล็กน้อย อายุยาวนานกว่าพันธุ์พื้นเมือง และผลซึ่งเรียกว่าลูกผักชี ใช้เป็นเครื่องเทศและมีคุณค่าทางโภชนาการ
บทสรุป
การปลูกผักชี เป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญและมีประโยชน์มากในด้านการเติบโตและการบริโภคของผักชีไทย ผักชีมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีสรรพคุณทางการแพทย์ โดยทุกส่วนของผักชีสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ตั้งแต่ใบ ก้าน ราก และลูกผักชี สามารถนำมาปรุงอาหารหรือใช้เป็นส่วนประกอบในการทำยาได้ ไม่เพียงแต่เป็นกิจกรรมสนุกและเพลิดเพลินเท่านั้น แต่ยังสร้างความสุขและประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้ปลูกและบริโภคได้อย่างมากมาย