เครื่องซักผ้าเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่สำคัญในการดูแลรักษาความสะอาดของเสื้อผ้าของคุณ หากเครื่องซักผ้ามีกลิ่นเหม็นหรือสกปรก อาจทำให้การทำงานของเครื่องไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น คุณควรปรึกษาช่างผู้มีประสบการณ์เพื่อให้คำแนะนำในการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า โดยการล้างทั้งฝาหน้าและฝาบนของเครื่องซักผ้า การล้างเครื่องซักผ้ามีขั้นตอนหลายขั้นตอน ตั้งแต่การทำความสะอาดด้านนอก จนถึงการทำความสะอาดด้านในที่ต้องใช้บริการล้างเครื่องซักผ้าจากผู้มีความเชี่ยวชาญเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด นั่นเพราะการถอดตัวถังเครื่องซักผ้าออกมาเพื่อทำความสะอาดอาจเสี่ยงต่อความเสียหายของตัวเครื่องได้ โดยเครื่องซักผ้ามีอุปกรณ์ที่ซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับไฟฟ้าโหมดล้างเครื่องซักผ้า
ดังนั้น การดูแลต้องระมัดระวังอย่างเป็นพิเศษการใช้บริการล้างเครื่องซักผ้าเป็นวิธีที่ดีที่สุด สะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัย คุณสามารถมั่นใจได้ว่าเครื่องซักผ้าของคุณจะมีอายุใช้งานที่ยืนยาวแน่นอน ทั้งนี้เรามีเคล็ดลับที่ช่วยให้คุณดูแลเครื่องซักผ้าแบบง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง เพื่อดูแลทำความสะอาดในเบื้องต้น ซึ่งวิธีล้างเครื่องซักผ้าสามารถทำได้เองซึ่งง่ายกว่าที่คุณคิดอย่างแน่นอน
เครื่องซักผ้าควรล้างตอนไหน
หากคุณพบว่าเครื่องซักผ้าของคุณมีกลิ่นอับ หรือเสื้อผ้าที่ล้างออกมายังมีเศษสกปรกติดอยู่ หรือเครื่องซักผ้าไม่สามารถล้างสิ่งสกปรกออกได้อย่างสมบูรณ์ ก็เป็นเวลาที่คุณควรจะล้างเครื่องซักผ้า เพื่อให้เสื้อผ้าของคุณมีความสะอาดและปลอดภัยในการใช้งานต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือฝาบน คุณต้องล้างถังซักให้สะอาด เพราะภายในถังซักเต็มไปด้วยคราบและสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็น การใช้เครื่องซักผ้าเป็นเวลานาน ก็ย่อมจะมีสิ่งตกค้างที่คุณจะต้องกำจัด เพื่อรักษาให้เครื่องซักผ้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนาน การล้างเครื่องซักผ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ดังนั้น คุณควรจะใช้เครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อล้างถังซักผ้าให้สะอาด และอย่าลืมทำความสะอาดเครื่องกรองน้ำท่อน้ำและท่อน้ำย่อยเพื่อป้องกันการอุดตัน ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ คุณสามารถดูแลเครื่องซักผ้าของคุณได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย
ประโยชน์ของการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้ามีสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ภายใน เช่น คราบเหงื่อ คราบอาหาร รวมไปถึงหินปูนที่มากับน้ำประปา ดังนั้นการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การล้างเครื่องซักผ้าทุกเดือนจะมีประโยชน์อย่างมาก โดยมีประโยชน์ดังนี้
- ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้าให้มีประสิทธิภาพและใช้งานได้ยาวนาน
- ช่วยกำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกที่มองไม่เห็น ทั้งการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้า และการล้างเครื่องซักผ้าฝาบน
- ช่วยกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ลดปัญหาผ้าอับชื้น
- ลดคราบขาวและปัญหาผ้าเป็นขุย
- การล้างถังซักให้สะอาดทำให้ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มทำงานได้ดี
ดังนั้นวิธีล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้า การล้างเครื่องซักผ้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้เครื่องซักผ้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และวิธีกำจัดเห็บหมัดผ้าที่ล้างออกมาจะสะอาดและปลอดภัยในการใช้งานต่อไป หากคุณไม่มั่นใจว่าจะทำได้หรือไม่ คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำแนะนำในการดูแลเครื่องซักผ้าของคุณอย่างถูกต้อง
7 วิธีล้างเครื่องซักผ้าด้านใน ทำตามได้ง่าย ๆ
การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าไม่ยุ่งยากและสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ตามท้องตลาดเพื่อล้างเครื่องซักผ้าได้อย่างง่ายดาย วิธีการล้างเครื่องซักผ้าสามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ การล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้า และการล้างเครื่องซักผ้าฝาบน ซึ่งมีวิธีการล้างทำความสะอาดที่ใกล้เคียงกันอย่างมาก สามารถนำไปปรับใช้ได้ดังนี้
1. ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูไม่เพียงแค่ช่วยทำความสะอาดของใช้ภายในครัวเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ล้างเครื่องซักผ้าที่มีสิ่งสกปรกตกค้างได้อีกด้วย วิธีการใช้งานคือให้นำน้ำส้มสายชูประมาณ 2-3 แก้วลงในช่องใส่ผงซักฟอก จากนั้นปั่นเครื่องซักผ้าเพื่อให้น้ำส้มสายชูละลายรวมกับน้ำและผงซักฟอก จากนั้นแช่เครื่องซักผ้าไว้เป็นเวลาสัก 30 นาที น้ำส้มสายชูจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างออกไป ทำให้เครื่องซักผ้าสะอาดและหอมสดชื่นเหมือนใหม่อีกครั้ง
2. ล้างเครื่องซักผ้าด้วยเบกกิ้งโซดา
การใช้เบกกิ้งโซดาเป็นวิธีการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่มีประสิทธิภาพและเป็นทางเลือกที่ดีเมื่อไม่มีน้ำส้มสายชูในมือ วิธีการใช้งานคือให้เทเบกกิ้งโซดาประมาณ 2 ช้อนโต๊ะลงในถังล้างเครื่องซักผ้าฝาบนที่เต็มไปด้วยน้ำ จากนั้นผสมรวมกัน และเทลงในช่องผงซักฟอกของเครื่องซักผ้า หลังจากนั้นปั่นเครื่องซักผ้าเป็นเวลา 2-3 นาที จนกว่าเบกกิ้งโซดาจะละลายกับน้ำ จากนั้นทิ้งไว้เป็นเวลาหนึ่งคืน ในวันถัดไป ให้กดปุ่มล้างเครื่องซักผ้า 1-2 รอบ จนกว่าน้ำที่ออกมาจะสะอาด การใช้เบกกิ้งโซดาเป็นวิธีการล้างเครื่องซักผ้าที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
3. ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำส้มสายชูผสมเบกกิ้งโซดา
การผสมกันของเบกกิ้งโซดาและน้ำส้มชายชูเป็นวิธีการล้างเครื่องซักผ้าที่มีประสิทธิภาพและเป็นทางเลือกที่ดีเมื่อต้องการกำจัดคราบสกปรกและกลิ่นเหม็นอับในเครื่องซักผ้า วิธีการใช้งานคือให้ละลายเบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะกับน้ำเปล่า จากนั้นเทลงในช่องผงซักฟอกของเครื่องซักผ้า และเติมน้ำส้มชายชูประมาณ 250 มล. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดคราบสกปรกและกลิ่นเหม็นอับ จากนั้นปั่นเครื่องซักผ้าเป็นเวลา 2 รอบ โดยไม่ต้องใส่ผงซักฟอก หลังจากนั้นให้ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำสะอาดอย่างละเอียด
4. ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
น้ำยาฆ่าเชื้อเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคในเครื่องซักผ้า วิธีการใช้งานคือให้นำน้ำยาฆ่าเชื้อผสมกับน้ำในอัตราส่วนที่แนะนำ จากนั้นปั่นให้ละลายเข้ากัน รอให้น้ำยาฆ่าเชื้อทำงานเป็นเวลาประมาณ 10-15 นาที จากนั้นสั่งเครื่องซักผ้าให้ทำการซักล้างอีกครั้งเพื่อทำความสะอาดอีกครั้ง โดยไม่ต้องใส่ผงซักฟอก หลังจากนั้นให้ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำสะอาดอย่างละเอียด การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคในเครื่องซักผ้า
5. ล้างเครื่องซักผ้าด้วยแอมโมเนีย
การล้างถังซักผ้าด้วยแอมโมเนียเป็นวิธีการที่สามารถชำระล้างสารตกค้างที่อยู่ภายในได้ โดยการเติมแอมโมเนีย 1-2 ถ้วยในถังแล้วสั่งซักล้างเพื่อทำความสะอาด เมื่อแอมโมเนียละลายในน้ำ ให้สั่งหยุดเครื่องซักผ้าไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นสั่งซักล้างต่ออีกครั้งเพื่อทำความสะอาดอีกครั้ง การใช้วิธีการนี้เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการชำระล้างสารตกค้างที่อยู่ภายในถังซักผ้า
6. ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำยาฟอกขาว
วิธีการล้างเชื้อแบคทีเรียตายเรียบโดยใช้น้ำยาฟอกขาว คือ ให้เทน้ำยาฟอกขาว 30 มล. ลงในช่องผงซักฟอก และอีก 30 มล. เทลงในถัง จากนั้นสั่งซักด้วยน้ำร้อน ให้เครื่องทำงานปกติ และเมื่อสารละลายเคลือบทั่วถึงในถังแล้ว ให้หยุดเครื่องซักผ้าไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นสั่งซักล้างต่ออีกครั้งเพื่อทำความสะอาด หลังจากเครื่องทำงานเสร็จแล้ว ให้สั่งซักล้างเครื่องอีก 1 ครั้งเพื่อล้างน้ำยาฟอกขาวทิ้ง จากนั้นให้เปิดทิ้งไว้จนเครื่องแห้ง วิธีการนี้เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการชำระล้างเชื้อแบคทีเรียตายเรียบ
7. ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำยาล้างเครื่องซักผ้า
วิธีการล้างเครื่องซักผ้าโดยการใช้น้ำยาล้างเครื่องซักผ้าคล้ายกับวิธีการล้างเครื่องซักผ้าโดยการใช้ผงซักฟอก โดยให้เติมน้ำยาล้างเครื่องซักผ้าลงในถังซัก แล้วสั่งซักล้างเครื่องซักผ้า จากนั้นกดสั่งซักล้างอีกรอบเพื่อล้างน้ำยาล้างเครื่องซักผ้าออก วิธีการนี้เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการล้างความสกปรกและเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ภายในเครื่องซักผ้า แต่อย่างไรก็ตาม ควรทำการล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำสะอาดอย่างละเอียดหลังจากใช้วิธีการนี้เพื่อล้างความสกปรกที่เหลือออกจากเครื่องซักผ้าอย่างสมบูรณ์
การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นงานที่สำคัญเพื่อให้เครื่องซักผ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณต้องการความสะดวก รวดเร็ว และการขจัดคราบสกปรกถึงด้านในอย่างมีประสิทธิภาพ จึงควรเลือกใช้บริการผู้มีความเชี่ยวชาญในการล้างเครื่องซักผ้า ทั้งการล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้าและการล้างเครื่องซักผ้าฝาบน การล้างเครื่องซักผ้าอย่างน้อยเดือนละครั้งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องซักผ้าในระยะยาว