ทำไมบ้านแต่ละหลังควรมีถังดักไขมัน เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยดักจับไขมันไม่ให้ปนเปื้อนน้ำที่ใช้งานในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นน้ำทิ้งจากการอาบน้ำหรือจากอ่างล้างจานในห้องครัว การใช้งานเหล่านี้เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ท่อระบายน้ำอุดตันและส่งผลให้เกิดน้ำท่วมภายในบ้านได้
ถ้าไม่มีถังดักไขมัน ไขมันที่ลอยมาจะตกตะกอนในท่อระบายน้ำ และสะสมเป็นก้อนหนืด หากเกินกว่า 10 เซนติเมตร จะเกิดปัญหาการไหลของน้ำที่มีปัญหามากขึ้น
นอกจากนี้ ถังดักไขมันยังช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคในท่อระบายน้ำ และลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากไขมันและเศษอาหารที่สะสมอยู่ในท่อ ทำให้การระบายน้ำในบ้านมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย และช่วยให้เวลาดูดส้วมง่ายขึ้น
ถังดักไขมัน คืออะไร?
ถังดักไขมันหรือบ่อดักไขมันเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการดักจับไขมันจากท่อน้ำทิ้งในบ้าน เพื่อแยกไขมันออกจากน้ำก่อนที่จะปล่อยน้ำทิ้งลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ มีหน้าที่และประโยชน์ดังนี้
- ดักกรองเศษอาหารจากซิงค์ล้างจาน เพื่อป้องกันการอุดตันของท่อ
- ลดกลิ่นที่เกิดจากการหมักหมมของเศษอาหารในท่อน้ำ
- ปรับคุณภาพน้ำทิ้งเพื่อให้มีคุณภาพดีขึ้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ง่ายต่อการดูแลรักษาโดยการนำขยะหรือเศษอาหารในตะแกรงออกไปทิ้ง
การเลือกขนาดถังดักไขมันให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน
การเลือกขนาดถังดักไขมันให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมีผลต่อการดูแลและบำรุงรักษา หากเลือกใช้ขนาดไม่เหมาะสมกับการใช้งาน อาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้ ซึ่งถังดักไขมันมีให้เลือกใช้งานหลากหลายขนาดด้วยกัน ตั้งแต่ 15-140 ลิตร โดยมีเกณฑ์พิจารณาในการเลือกขนาดดังนี้
- สมาชิกภายในบ้าน 1-5 คน ควรเลือกใช้ขนาด 15 ลิตร
- สมาชิกภายในบ้าน 6-10 คน ควรเลือกใช้ขนาด 30 ลิตร
ระบบการทำงานของถังดักไขมัน
ระบบการทำงานของถังดักไขมันมีหลักการง่าย ๆ คือการใช้วิธีแทนที่ของน้ำ น้ำที่อยู่ในถังจะถูกแทนที่จากน้ำที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยจะให้น้ำในถังมีเวลาเพียงพอที่จะแยกไขมันกับน้ำออกจากกัน จึงจำเป็นต้องมีแผงกั้นตรงกลางระหว่างถังเพื่อลดความเร็วของน้ำที่ไหลผ่านมา ไม่ให้มีผลกระทบต่อการแยกตัวของน้ำและไขมันให้มากที่สุด นอกจากนี้ถังดักไขมันยิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งมีประสิทธิภาพมาก
ถังดักไขมันแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ
- ตะแกรงดักเศษอาหาร ที่ช่วยกรองเศษอาหารและสิ่งสกปรกต่าง ๆ เพื่อลดความสกปรกในขั้นแรก
- ส่วนแยกไขมันของน้ำ โดยน้ำที่ผ่านการกรองเศษอาหารจะไหลผ่านไปยังช่องอื่นของถัง ด้วยการออกแบบที่เหมาะสมตามทิศทางการไหลของน้ำ จะมีประสิทธิภาพในการแยกและสกัดไขมันที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำ
- ท่ออ่อนระบายไขมัน เมื่อไขมันถูกแยกจากน้ำที่สะสมอยู่ภายในตัวถังในระยะเวลา 7-10 วัน ก็สามารถระบายไขมันออกทางท่ออ่อนลงถุง เพื่อนำไปทิ้งต่อไป เมื่อน้ำทิ้งจากที่พักอาศัย ร้านค้า หรือร้านอาหารผ่านกระบวนการของถังดักไขมันแล้ว ก็จะกลายเป็นน้ำที่มีมาตรฐานสามารถระบายลงแหล่งน้ำสาธารณะได้โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษแต่อย่างใด
วิธีติดตั้งถังดักไขมันแบบตั้งหรือแบบบนดิน
การติดตั้งถังดักไขมันแบบตั้งหรือแบบบนดินเป็นที่นิยมอย่างมากในที่สาธารณะที่มีพื้นที่จำกัด เช่น คอนโดมิเนียม บ้านทาวน์โฮม หรือห้องพักอาศัย เนื่องจากง่ายต่อการติดตั้งและมีประสิทธิภาพในการดักจับไขมันอย่างดี วิธีการติดตั้งถังดักไขมันแบบตั้งหรือบนดินได้แก่
- เลือกขนาดตามการใช้งานโดยใช้เกณฑ์จำนวนผู้ใช้ในบ้านหรือห้องพักเป็นตัวชี้วัด
- เลือกตำแหน่งที่จะติดตั้ง โดยมักจะติดตั้งถังดักไขมันในช่องเก็บของใต้อ่างล้างจาน เพื่อความสวยงามและเหมาะสมกับพื้นที่ขนาดเล็ก
- เชื่อมต่อท่อน้ำทิ้งจากอ่างล้างจานเข้ากับถังดักไขมัน
- เชื่อมต่อท่อระบายน้ำทิ้งจากถังไปยังท่อระบายน้ำทิ้งของห้องพัก
วิธีการบำรุงรักษา
วิธีการบำรุงรักษาถังดักไขมันได้แก่
- ตรวจสอบปริมาณไขมันที่ถูกดักจับไว้ในถังดักไขมันเป็นระยะ เพื่อป้องกันการเต็มเกลือของถัง
- กำจัดไขมันทิ้งออกจากถังดักไขมันโดยการตักออก เมื่อมีการสะสมของปริมาณไขมันและน้ำมันมากขึ้น เพื่อให้ถังดักไขมันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
วิธีติดตั้งถังดักไขมันแบบฝังดิน: การติดตั้งถังดักไขมันแบบฝังดินจะมีความยุ่งยากมากกว่าแบบตั้งพื้นเล็กน้อย เนื่องจากต้องทำการขุดฝังไว้ใต้ดินในบริเวณด้วยนอกตัวบ้าน ซึ่งมักจะมีการติดตั้งในพื้นที่นอกหรือด้านนอกของตัวบ้าน เพื่อให้ง่ายต่อการสำรองพื้นที่ในบริเวณใน นอกจากนี้ ห้องอาหารหรือครัวยังมักติดตั้งประเภทนี้อีกด้วย เนื่องจากน้ำมันมักปะปนกับน้ำทิ้งในขั้นตอนการทำอาหารอย่างมาก
การติดตั้งก็มีทั้งแบบสร้างเอง และแบบสำเร็จรูป
การติดตั้งถังดักไขมันสามารถทำได้ทั้งแบบสร้างเองและแบบสำเร็จรูป ดังนี้:
1.แบบสร้างเอง
- การสร้างเองมักมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเนื่องจากสามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการและพื้นที่ที่มีอยู่
ขั้นตอนการติดตั้ง
- เลือกขนาดที่ต้องการตามความต้องการ
- ขุดหลุมโดยมีขนาดกว้างและลึกมากกว่าขนาดของถังดักไขมันเล็กน้อย
- เชื่อมต่อท่อน้ำทิ้งเข้ากับถังและติดตั้งอุปกรณ์ภายในเช่น ตะแกรงดักไขมัน และช่องแยกไขมัน
- เชื่อมต่อท่อระบายน้ำทิ้งที่ผ่านการแยกไขมันเข้ากับท่อระบายน้ำทิ้งสาธารณะ
2.แบบสำเร็จรูป
- มีความสะดวกในการติดตั้งมากกว่าแบบสร้างเอง เนื่องจากมีอุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมใช้งานเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนการติดตั้ง
- เลือกซื้อถังดักไขมันสำเร็จรูปตามขนาดที่ต้องการ
- ขุดหลุมโดยมีขนาดกว้างและลึกมากกว่าขนาดของถังดักไขมันเล็กน้อย
- ติดตั้งถังดักไขมันสำเร็จรูปเข้ากับท่อน้ำทิ้งที่เชื่อมต่อกับภายในบ้าน
- เชื่อมต่อท่อระบายน้ำที่ผ่านการดักจับไขมันเข้ากับท่อระบายน้ำสาธารณะ
สรุป
ถังดักไขมันไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่ภายในครัวเรือนเท่านั้น การดักไขมันที่ถูกต้องยังมีผลต่อสาธารณะด้วย เมื่อติดตั้งถังดักไขมันอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดการปล่อยไขมันในน้ำทิ้งที่เข้าสู่ระบบน้ำเสียสาธารณะ การตรวจสอบสภาพของถังดักไขมันเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าถังดักไขมันที่ติดตั้งมายังสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควรปลูกต้นไม้ฟอกอากาศด้วยจะดีมาก และหากต้องการหาซื้อเองก็สามารถใช้คำแนะนำในบทความนี้เพื่อการเลือกซื้อที่เหมาะสม ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในบ้านและพื้นที่การติดตั้ง เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมและลดความยุ่งยากในการดูแลรักษา