การปลูกต้นไม้ภายในบ้านหรือคอนโดมีประโยชน์หลายประการ นอกจากจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวและความสวยงามแล้ว ต้นไม้ยังช่วยดักจับฝุ่นละอองและฟอกอากาศได้อีกด้วย ซึ่งมีบางชนิดที่เหมาะสำหรับปลูกภายในบ้าน เนื่องจากง่ายต่อการดูแลรักษา
แม้บางคนอาจกังวลว่าการปลูกต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอนจะส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อม แต่ในความเป็นจริงนั้น ต้นไม้บางประเภทสามารถช่วยฟอกอากาศและกำจัดสารพิษได้ ซึ่งจะทำให้บ้านของคุณมีอากาศบริสุทธิ์ ปราศจากฝุ่นและมลพิษ ส่งผลดีต่อสุขภาพของทุกคนในครอบครัว
ลักษณะของต้นไม้ฟอกอากาศ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขแนะนำว่า การปลูกต้นไม้ช่วยดักจับสารพิษและฝุ่นละอองในอากาศได้เป็นอย่างดี เนื่องจากส่วนต่างๆ ของต้นไม้ โดยเฉพาะใบ มีคุณสมบัติในการดักจับฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ในอากาศ ให้ติดค้างอยู่บนผิว
โดยพืชตระกูลสนจะมีประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่นสูง เพราะโครงสร้างของใบมีความซับซ้อนละเอียด ส่วนไม้เลื้อยนั้นจะดักจับฝุ่นได้มากกว่าไม้ชนิดอื่น เนื่องจากพื้นผิวใบมีจำนวนมาก ลักษณะใบที่เรียว เล็ก ชื้น หยาบ มีขน หรือผิวใบที่เหนียวจะทำให้ฝุ่นเกาะติดได้ง่าย นอกจากนี้ ลำต้น กิ่งก้านที่พันทับซ้อนกันอย่างซับซ้อนก็มีส่วนช่วยในการดักจับฝุ่นละอองได้เช่นกัน
ข้อดีของการปลูกต้นไม้เพื่อฟอกอากาศ
- ช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์
ต้นไม้มีคุณสมบัติในการช่วยฟอกอากาศภายในบ้าน โดยสามารถเปลี่ยนสารมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น สารฟอร์มาลดีไฮด์ เบนซิน คาร์บอนมอนอกไซด์ และสารอื่น ๆ ให้สะอาดมากขึ้นถึง 87% ภายใน 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ต้นไม้ยังช่วยปรับสภาพอากาศที่ไม่ถ่ายเทให้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง โรคหืด และโรคทางเดินหายใจ
- เสริมสร้างสมาธิ
การปลูกต้นไม้ไว้ภายในบ้านช่วยเสริมสร้างสมาธิในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการศึกษาและวิจัยของสถาบันต่างประเทศ พบว่าบุคคลในวัยเรียนและวัยทำงานสามารถทำงานได้ดีขึ้นถึง 70% เมื่อมีต้นไม้ฟอกอากาศอยู่ในบริเวณบ้าน นอกจากนี้ ต้นไม้ยังช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และศักยภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
- เพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ
ต้นไม้มีกระบวนการหายใจคล้ายคนเรา โดยจะคายน้ำออกมาเป็นประจำ น้ำที่ระเหยออกมานี้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศภายในห้อง การศึกษาจากมหาวิทยาลัย The Agricultural University of Norway พบว่า การมีความชื้นในอากาศที่เหมาะสมอาจช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ปัญหาระบบทางเดินหายใจ ผิวแห้งกร้าน รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ในมนุษย์ได้
- ตกแต่งให้สวยงาม
การจัดวางต้นไม้ฟอกอากาศภายในบ้านจะช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ รวมถึงการประดับตกแต่งภายในห้องต่าง ๆ เช่น ห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น ล้วนเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มบรรยากาศน่าอยู่และทำให้บ้านมีชีวิตชีวา ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายจากการอยู่บ้านนานเกินไป
แนะนำต้นไม้ฟอกอากาศที่ควรปลูกในบ้าน
- พลูด่าง
พลูด่างเป็นพืชเลื้อยที่ปลูกง่ายเจริญเติบโตเร็ว ลำต้นแข็งแรงทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี จึงถือเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน เพราะมีความเชื่อว่าจะช่วยให้ชีวิตราบรื่นและมีคนรักมาเยือน นอกจากนี้ พลูด่างยังมีคุณสมบัติในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงถึง 75% และคายก๊าซออกซิเจนได้ 100% ในช่วงกลางวัน จึงเหมาะสำหรับการนำมาปลูกไว้ภายในบ้านเพื่อฟอกอากาศให้บริสุทธิ์
การดูแลรักษาพลูด่างนั้นขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และวิธีการปลูก แต่โดยทั่วไปแล้วเป็นพืชที่ไม่ต้องการแสงมากนัก จึงเหมาะสำหรับการปลูกภายในอาคาร หากปลูกในดิน ให้รดน้ำวันละ 3 ครั้ง แต่หากปลูกในน้ำ ควรเปลี่ยนน้ำใหม่เดือนละครั้ง
- ลิ้นมังกร
ลิ้นมังกร หรือหอกพระอินทร์ เป็นไม้ประดับที่ปลูกและดูแลง่าย มีคุณประโยชน์หลากหลาย และมีความพิเศษกว่าพืชชนิดอื่น เนื่องจากในเวลากลางคืนจะคายก๊าซออกซิเจน แต่กลางวันจะคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จึงเหมาะสำหรับปลูกในห้องนอน นอกจากนี้ยังเป็นพืชฟอกอากาศ ช่วยกำจัดฝุ่นละอองได้ด้วย
การดูแลลิ้นมังกรนั้นง่ายมาก เพราะเป็นพืชที่ทนทานมาก สามารถปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดจัด แต่ควรรดน้ำอย่างพอเหมาะ วันเว้นวัน ไม่ควรให้ดินแฉะจนเกินไป เพราะอาจทำให้ต้นตายได้
- ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้เป็นต้นไม้ประดับที่มีประโยชน์หลากหลาย นอกจากใช้รักษาแผลและมีสรรพคุณทางการแพทย์แล้ว ยังสามารถนำมาปลูกประดับในบ้านหรือห้องนอนได้ เนื่องจากเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่คายก๊าซออกซิเจนในเวลากลางคืน ช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ขจัดฝุ่นละออง และดูดซับสารพิษอย่างฟอร์มาลดีไฮด์ที่พบในวัสดุต่าง ๆ เช่น ยาทาเล็บ สีทาบ้าน เป็นต้น
การดูแลรักษาว่านหางจระเข้นั้นไม่ยาก ควรวางไว้ในบริเวณที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไปจนท่วมรากและทำให้โคนเน่า รดน้ำพอประมาณตามความชื้นของดินเท่านั้น
- เดหลี
ต้นเดหลีเป็นไม้ล้มลุกที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจจากกลิ่นหอมและดอกสวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศ เหมาะสำหรับปลูกไว้ในบ้าน เนื่องจากมีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษต่าง ๆ ได้ เช่น กาว อะซิโตน สารไตรคลอโรเอทีลีน เบนซิน และฟอร์มาลดีไฮด์ ซึ่งพบในเครื่องสำอาง น้ำยาทาเล็บ น้ำยาลบคำผิด เครื่องพิมพ์ เครื่องถ่ายเอกสาร เตาแก๊ส และน้ำยาเคลือบเงาไม้
การดูแลรักษาต้นเดหลีค่อนข้างง่าย ควรรดน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ให้หน้าดินชุ่มพอประมาณ และวางไว้ในพื้นที่ที่มีแสงธรรมชาติและอากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงที่ร้อนจัดหรือแสงแดดจ้าเกินไป
- กล้วยไม้
กล้วยไม้นอกจากจะมีความงดงามแล้ว ยังมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกล้วยไม้สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และคายก๊าซออกซิเจนในปริมาณมากออกสู่บรรยากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้วยไม้สกุลหวาย มีความสามารถพิเศษในการดูดซับไอระเหยของสารเคมีบางชนิด เช่น แอลกอฮอล์ อะซิโตน ฟอร์มาลดีไฮด์ และคลอโรฟอร์ม ออกจากอากาศได้เป็นอย่างดี
การดูแลรักษากล้วยไม้นั้นไม่ยากเลย เพียงแค่วางหรือแขวนกล้วยไม้ไว้ในบริเวณที่ได้รับแสงแดดพอสมควร และรดน้ำวันละหนึ่งครั้งเท่านั้น กล้วยไม้ก็จะเจริญงอกงามได้อย่างดี พร้อมทำหน้าที่ช่วยฟอกอากาศให้สดชื่นยิ่งขึ้นไม่มีปัญหาเวลาดูดส้วม
วางต้นไม้ฟอกอากาศ ตรงไหนดี ?
- เลือกวางต้นไม้ในบริเวณที่ได้รับแสงสว่างเพียงพอ เนื่องจากต้นไม้จำเป็นต้องใช้แสงในกระบวนการต่างๆ เช่น การสังเคราะห์แสง การคายน้ำ การดูดซึมน้ำ และการดูดซับอากาศ
- วางต้นไม้ในระยะใกล้เขตการหายใจของคน ประมาณ 0.17-0.23 ลูกบาศก์เมตร เพื่อให้ต้นไม้สามารถช่วยฟอกอากาศพิษจากร่างกายได้
- สำหรับห้องนอน ควรเลือกต้นไม้ที่คายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเวลากลางวันและปล่อยออกซิเจนในเวลากลางคืน เช่น ลิ้นมังกร ว่านหางจระเข้ วางใกล้เตียงนอน
- สำหรับพื้นที่นอกบ้าน เช่น สวน ควรปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และจับฝุ่นละอองได้ดี อาทิ จามจุรี พญาสัตบรรณ
- การจัดสวนหรือปลูกต้นไม้รอบบ้าน ถือเป็นวิธีแก้ปัญหามลพิษทางอากาศตั้งแต่ต้นเหตุ ซึ่งหลายประเทศพบว่าได้ผลจริง
สรุป
ในยุคสมัยปัจจุบัน ไลฟ์สไตล์การทำงานที่เต็มไปด้วยความเครียดนั้นมักส่งผลกระทบต่อคนรุ่นใหม่เป็นพิเศษ การปลูกต้นไม้ฟอกอากาศไว้ในบ้านหรือห้องนอนจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและควรติดตั้งถังดักไขมันด้วย ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายและเพิ่มความสุขในการใช้ชีวิตประจำวัน ด้วยการปรับแต่งพื้นที่อยู่อาศัยให้เป็นแหล่งพักผ่อนที่แท้จริง