วิธีปลูกผักสลัดเองถือเป็นวิธีที่ดีในการรับประทานอาหารที่เพื่อสุขภาพและใช้ในการทำเมนูอาหารต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย ผักสลัดมีเนื้อสัมผัสอ่อนนุ่มและไม่มีรสชาติขม ทำให้เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เมื่อปัจจุบันผักสลัดหรือผักสดอาจมีการปนเปื้อนสารเคมีซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนั้นในบทความนี้จะมาแนะนำ 2 วิธีปลูกผักสลัดในบ้านแบบง่าย ๆ เพื่อให้ได้ผักสดที่ปลอดภัยทางอาหาร และไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีที่อาจมีอยู่
ผักสลัดที่นิยมปลูกมีกี่ชนิด?
เมื่อพูดถึงผักสลัดที่นิยมวิธีปลูกผักสลัด กินเองนั้น มีหลายชนิด ดังนั้นขอแนะนำพันธุ์ผักสลัดที่ได้รับความนิยมและมีความต้องการจากตลาดในขณะนี้ดังนี้
กรีนโอ๊ค
เป็นหนึ่งในผักสลัดที่ได้รับความนิยมสูงเนื่องจากลักษณะใบที่สวยงามและรสชาติที่อ่อนโยน ใบของกรีนโอ๊คมีสีเขียวอ่อนและเป็นโค้งน้อยที่ปลายใบ และเนื้อภายในนุ่มสะอาดโดยไม่มีรสขมที่เป็นผลมาจากการปรุงรสหรือกระบวนการอบแห้ง ดังนั้น มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใส่ในสลัดหรืออาหารอื่น ๆ ที่ต้องการเพิ่มรสชาติของผักสลัดให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
เรดโอ๊ค
เรดโอ๊คเป็นอีกหนึ่งอย่างผักสลัดที่มีความนิยมสูงและเป็นที่ต้องการเพื่อเพิ่มสีสันและความสวยงามให้กับอาหารของเรา ใบของเรดโอ๊คมีลักษณะคล้ายกับกรีนโอ๊คในเรื่องของรูปร่างและขนาด แต่มีสีใบที่อมแดงน้ำตาล ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สำคัญของมัน ใบเรดโอ๊คยังมีเนื้อภายในที่นุ่มนวลและไม่มีรสขมที่สามารถทำให้เราเพิ่มความหลากหลายในสลัดและเมนูอาหารอื่น ๆ ที่ต้องการรสชาติอ่อนโยนพร้อมกับความสวยงามที่สะดุดตา
คอส
เป็นผักสลัดที่มีลักษณะคล้ายกับผักกาดหอม มีใบยาวและก้านสีขาว ใบของคอสมีสีเขียวเข้มจนถึงเขียวเข้มอย่างสวยงาม สิ่งที่น่าสนใจของคอสคือเนื้อสัมผัสที่กรอบและไม่มีรสขม คอสมักถูกนำมาใช้ในสลัดซีซาร์หรืออาหารอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความหอมหวานและความกรอบให้กับอาหารที่เราทาน ไม่ว่าจะเป็นสลัดธรรมดาหรืออาหารอื่น ๆ การเลือกใช้คอสในเมนูอาหารจะช่วยเพิ่มรสชาติและความหอมของอาหารให้สดชื่นยิ่งขึ้น ทั้งนี้คอสยังเป็นผักที่มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพเนื่องจากมีปริมาณใหญ่ของวิตามินและเส้นใยอาหารซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารและการเผาผลาญอาหารในร่างกาย
เรดคอรัล
เป็นผักสลัดที่มีความคล้ายคลึงกับกรีนโอ๊คและเรดโอ๊ค อย่างไรก็ตามเรดคอรัลมีลักษณะใบที่หยิกและปลายใบที่มีสีแดงอมน้ำตาล สิ่งที่น่าสนใจของเรดคอรัลคือเนื้อสัมผัสที่นุ่มและไม่มีรสขม ผู้คนมักนำเรดคอรัลมาใช้ในสลัดและเมนูเพื่อสุขภาพ เพื่อเพิ่มความหอมหวานและความกรอบให้กับอาหารที่เราทาน การเลือกใช้เรดคอรัลในอาหารช่วยเสริมสร้างรสชาติและความหอมของอาหารให้สดชื่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรดคอรัลยังเป็นแหล่งที่มาของวิตามินและเส้นใยอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารและการเผาผลาญอาหารในร่างกายอีกด้วย
บัตเตอร์เฮด
บัตเตอร์เฮดเป็นผักสลัดที่มีลักษณะหัวสวยงาม มีใบกว้างและเป็นรูปวงรีที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ของมัน ใบเฮดมีลักษณะเรียงซ้อนและเกาะกันอย่างลงตัว ซึ่งทำให้มีความดูดีและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เนื้อภายในของใบเบฮดยังมีความนุ่มนวลและไม่มีรสขมทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการสร้างสลัดและอาหารเพื่อสุขภาพ ความสดชื่นและรสชาติที่อ่อนโยนของใบเบฮดจะช่วยเสริมสร้างรสชาติให้กับอาหารอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในสลัดหรือเมนูอื่น ๆ เบฮดเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพื่อสร้างเมนูสุขภาพที่อร่อยและเต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญ สัมผัสกับบัตเตอร์เฮดแล้วคุณจะได้รับความสดชื่นและสุขภาพอย่างครบถ้วน
เบบี้ร็อคเก็ต
เป็นผักสลัดที่มีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยใบสีเขียวอ่อนและเรียวเล็กที่น่ารักน่าสนใจมาก นอกจากนี้ รสชาติของเบบี้ร็อคเก็ตมีความขมเล็กน้อยที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการรสชาติเข้มข้นในอาหารเพื่อสุขภาพ
ฟิลเลย์ไอซ์เบิร์ก
เป็นผักสลัดที่มีคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างมากเนื่องจากใบสีเขียวสดใสและทรงพุ่มหนาที่น่าตื่นเต้นตา ทั้งนี้ยังมีรูปแบบใบที่หยิกตามธรรมชาติ จึงเป็นที่รู้จักกันดีในการใช้ในสลัดหรือเป็นส่วนผสมเพื่อเพิ่มรสชาติที่สุดของอาหาร นอกจากนี้ฟิลเลย์ไอซ์เบิร์กยังมีเนื้อฉ่ำน้ำและกรอบอีกด้วย
การรู้จักต้นไม้ในบ้านและเลือกใช้พันธุ์ผักสลัดที่เหมาะสมจะช่วยให้เราสามารถปลูกและใช้ผักสลัดในการทำอาหารได้อย่างถูกต้อง และสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้เช่นกัน
2 วิธีการปลูกผักสลัด ปลูกได้ง่าย ๆ
การปลูกผักสลัดมีวิธีการสองแบบที่แตกต่างกัน คือการปลูกลงบนดินและการปลูกแบบไร้ดิน
- วิธีการปลูกลงบนดินเป็นวิธีที่นิยมและใช้กันทั่วไป โดยในวิธีนี้จะต้องนำต้นผักสลัดลงในกระถางแล้วรดน้ำอย่างปกติเพื่อให้เจริญเติบโตได้อย่างถูกต้อง
- การปลูกแบบไร้ดินหรือการปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์นั้นมีความแตกต่างจากวิธีการปลูกปกติ ในวิธีนี้จะใช้ขวดน้ำพลาสติกและฟองน้ำในการปลูกผักสลัด โดยให้รากของผักสัมผัสน้ำโดยตรงโดยไม่ผ่านดิน
ทั้งสองวิธีการนี้ไม่ซับซ้อนและไม่ยุ่งยากเกินไป ทุกคนสามารถเลือกใช้วิธีการปลูกผักสลัดตามความถนัดของตนเองหรือเลือกตามความเหมาะสมของพื้นที่ที่จะเพาะปลูกได้
อุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกผักสลัด
สำหรับอุปกรณ์วิธีปลูกผักสลัดลงดินที่ใช้ในการปลูกผักสลัดนั้นสามารถหาได้ง่าย ๆ ทั้งในร้านขายอุปกรณ์การเกษตรและท้องตลาดทั่วไป อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้มีดังนี้
เมล็ดพันธุ์
เมล็ดพันธุ์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการปลูกผักสลัด ควรเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์ผักจากร้านขายอุปกรณ์การเกษตรที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้เมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์และมีคุณภาพ เมล็ดพันธุ์ที่ไม่สมบูรณ์อาจทำให้ไม่งอกหรือเติบโตไม่เต็มต้น
ภาชนะเพาะเมล็ด
ภาชนะเพาะเมล็ดใช้เพื่อเพาะเมล็ดให้เกิดรากและใบเลี้ยงต้นกล้า สามารถใช้ภาชนะเพาะเมล็ดที่มีจำหน่ายทั้งในร้านขายอุปกรณ์การเกษตร กล่องพลาสติกขนาดเล็ก จานข้าว หรือภาชนะอื่น ๆ ที่มีลักษณะเหมาะสม เพื่อให้การเพาะเมล็ดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
กระถางสำหรับปลูก
กระถางสำหรับปลูกเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกต้นกล้าที่ได้มาจากการเพาะเมล็ด จะทำให้ผักสลัดมีพื้นที่สำหรับเติบโตมากขึ้นและเติบโตอย่างสมบูรณ์ที่สุด
กระบอกฉีดน้ำ
กระบอกฉีดน้ำเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในช่วงเพาะเมล็ด สามารถใช้กำจัดน้ำพ่นเพื่อให้ดินที่ใช้เพาะเมล็ดมีความชุ่มชื้น และไม่ทำให้เมล็ดพันธุ์แยกตัวออกจากดินและไม่เติบโตเป็นต้นกล้าได้
สารละลายธาตุอาหาร A และ B
สารละลายธาตุอาหาร A และ B เป็นสารละลายที่มีธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับการปลูกผักสลัด เพื่อให้ผักสลัดเติบโตอย่างเต็มที่และมีสีสันสวยงาม สารละลายนี้สามารถหาซื้อได้ในร้านขายอุปกรณ์การเกษตร ซึ่งควรเลือกสารละลายที่มีคุณภาพเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
วิธีปลูกผักสลัดแบบง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้
หลังจากทุกคนได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับปลูกผักสลัดเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือขั้นตอนการปลูกผักสลัดแบบง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ โดยขั้นตอนในการปลูกนั้นมีทั้งหมด 6 ขั้นตอน ดังนี้
เพาะเมล็ดผักสลัด
ขั้นตอนแรกในการปลูกผักสลัดคือการเพาะเมล็ดผักสลัด โดยเริ่มต้นด้วยการนำดินสำเร็จรูปใส่ลงไปในภาชนะเพาะเมล็ดประมาณ ¾ ของภาชนะ แล้วเกลี่ยให้หน้าดินเสมอกัน หลังจากนั้นใช้นิ้วกดลงไปให้เป็นหลุม จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์ที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในหลุม พร้อมกับเกลี่ยดินกลบหลุมเมล็ดพันธุ์ จากนั้นใช้กระบอกฉีดน้ำให้ทั่วทั้งภาชนะ จนดินชุ่มชื้นเพียงพอต่อการเติบโตของเมล็ดพันธุ์
เตรียมดินสำหรับปลูก
หลังจากเพาะเมล็ดพันธุ์เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการเตรียมดินสำหรับปลูกผักสลัด โดยนำดินสำเร็จรูปมาใส่ไว้ในกระถางสำหรับปลูกประมาณ ¾ ของกระถาง เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับย้ายต้นกล้ามาปลูกในกระถาง และให้ผักสลัดมีพื้นที่ในการเติบโตมากขึ้น
ย้ายต้นกล้ามาปลูกในกระถาง
เมื่อเพาะเมล็ดพันธุ์และเตรียมดินสำหรับปลูกแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการย้ายต้นกล้ามาปลูกในกระถาง ในขั้นตอนนี้ควรระมัดระวังเพื่อไม่ให้รากของต้นกล้าขาดสาย สามารถใช้อุปกรณ์สำหรับย้ายต้นกล้าหรือเสียมพรวนดินช่วยในการย้ายได้
วางกระถางไว้ที่ที่ได้รับแสงแดดเพียงพอ
หลังจากย้ายต้นกล้ามาปลูกในกระถางเรียบร้อยแล้ว ให้นำกระถางที่ใช้ปลูกผักสลัดไปวางที่ที่ได้รับแสงแดดเพียงพอ เพราะผักสลัดเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดตลอดทั้งวัน และควรรดน้ำให้ผักสลัดเช้าและเย็นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ดินชุ่มชื้นเพียงพอต่อความต้องการของผักสลัด
ใส่สารละลายธาตุอาหาร A และ B
นอกจากการเตรียมดิน วางกระถางในที่รับแสงแดด และรดน้ำให้ดินชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังคงต้องใส่สารละลายธาตุอาหาร A และ B เพื่อให้ผักสลัดได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน โดยผสมสารละลายธาตุอาหาร A และ B เข้าด้วยกันในอัตราส่วน 1:1 ต่อน้ำ 120 ส่วน เพื่อให้สารละลายธาตุอาหารมีความเข้มข้นที่เหมาะสมกับความต้องการของผักสลัด
รอประมาณ 40-45 วัน
เมื่อทำตามขั้นตอนการปลูกผักสลัดครบทั้ง 5 ขั้นตอนแล้ว ให้รอประมาณ 40-45 วัน เพื่อให้ผักสลัดเติบโตตามวัฏจักรของพืช อย่างไรก็ตามผักสลัดบางชนิดอาจเติบโตเร็วกว่าหรือช้ากว่า 40-45 วัน ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชพันธุ์นั้นๆ นอกจากนี้เมื่อผักสลัดเติบโตเต็มที่แล้ว สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทันที
สรุป
ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่ไม่เคยปลูกผักสวนครัวในกระถางมาก่อนหรือจะมีพื้นที่น้อยในการปลูกก็ไม่เป็นอุปสรรคที่จะปลูกผักสลัดที่บ้านไว้เพื่อบริโภคเองได้ เพียงแค่คุณเลือกเมล็ดพันธุ์ผักที่คุณต้องการปลูกพร้อมกับเตรียมอุปกรณ์สำหรับการปลูกและทำตามขั้นตอนที่ง่าย ๆ ที่ได้รับการแนะนำในบทความนี้ ทุกคนสามารถมีผักสลัดสด สะอาด สีสันสดใส และรสชาติอร่อยให้บริโภคได้เอง หรือหากคุณต้องการทำเป็นอาชีพเสริมก็สามารถทำได้เช่นกัน