เมื่อคุณได้สร้างบ้านขึ้นแล้วและเสร็จสิ้นการก่อสร้าง มีขั้นตอนสำคัญที่ต้องผ่านเพื่อขอมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อให้บ้านของคุณมีพลังงานไฟฟ้าใช้งานได้ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีเลขที่บ้านที่แน่นอน ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักขั้นตอนและวิธีการขอมิเตอร์ไฟฟ้า การจัดการเรื่องการขอย้ายเสาไฟฟ้า สายไฟฟ้า และการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า ทำให้คุณสามารถเข้าอยู่ในบ้านใหม่ของคุณได้อย่างสะดวกสบาย
คุณสมบัติของผู้ที่จะขอมิเตอร์ไฟฟ้า ไม่มีเลขที่บ้าน
ผู้ที่มีสิทธิ์ขอมิเตอร์ไฟฟ้าเมื่อไม่มีเลขที่บ้านต้องเป็นผู้ที่เข้าพักหรือใช้สิ่งที่มีการใช้ไฟฟ้า และต้องมีลักษณะเป็นดังนี้
- เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน หรือผู้ครอบครองที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น มีโฉนดที่ดิน, น.ส.3, น.ส.3ก, สิทธิการเช่า เป็นต้น
- มีหลักฐานแสดงตัวตนที่ชัดเจน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ทะเบียนบ้าน เป็นต้น
- มีสถานที่ติดตั้งมิเตอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างปลอดภัย
- ยินดีปฏิบัติตามข้อกำหนด เงื่อนไขการใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอย่างเคร่งครัด
เอกสารที่ผู้ขอมิเตอร์ไฟฟ้า ไม่มีเลขที่บ้าน ต้องนำมาแสดง
หากคุณต้องการขอมิเตอร์ไฟฟ้าแต่ไม่มีเลขที่บ้าน คุณต้องนำเอกสารต่อไปนี้มาแสดงเพื่อยื่นประกอบคำร้องขอใช้ไฟฟ้ากับหน่วยงานไฟฟ้า
หลักฐานการขอมิเตอร์ไฟฟ้า (ไม่มีเลขที่บ้าน)
- สำเนาทะเบียนบ้านที่ต้องการติดตั้งการใช้ไฟฟ้า และสำเนาทะเบียนบ้านที่อยู่ปัจจุบัน
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สัญญาซื้อขาย (กรณีซื้อขายบ้าน), สัญญาเช่า (กรณีเช่าบ้าน)
- หนังสือมอบอำนาจพร้อมติดอากรแสตมป์ 10 บาท (กรณีเจ้าของบ้านไม่มาดำเนินการ)
- สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ
- สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านผู้ให้เช่า
- ใบยินยอมผ่านที่หรือใบยินยอมในกรณีต่างๆ (กรณีผ่านที่ดินผู้อื่น), สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านขอผู้ยินยอม
- ใบเสร็จค่าไฟฟ้าข้างเคียงของเสาที่จะติดตั้งมิเตอร์ (ถ้ามี)
หลักฐานการขอมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราว (สำหรับใช้ในการก่อสร้าง)
- สำเนาทะเบียนบ้านที่ต้องการติดตั้งการใช้ไฟฟ้า
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาใบอนุญาตก่อสร้าง (ถ้ายังไม่ได้ให้ถ่ายใบคำขอมาแทน)
- โฉนดที่ดินสถานที่ที่ต้องการใช้ไฟฟ้า
- สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ
การขอมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราวต้องเตรียมสายไฟฟ้าและคัทเอ้าท์หรือเบรกเกอร์ตามขนาดมิเตอร์มาในวันชำระเงินด้วย
ขั้นตอนการขอมิเตอร์ไฟฟ้า ในกรณีไม่มีเลขที่บ้าน มีดังนี้
- การยื่นคำร้องขอ
- หลังจากที่ได้รับคำร้องขอใช้ไฟฟ้าพร้อมเอกสารประกอบครบถ้วน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจะทำการตรวจสอบการเดินสายไฟในอาคารที่ต้องการติดตั้งไฟฟ้า
- หากยังไม่มีการเดินสายไฟฟ้า เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้เดินสายไฟให้เรียบร้อยแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
- การตรวจสอบการเดินสายไฟฟ้า
- เมื่อตรวจสอบการเดินสายไฟฟ้าแล้วพบว่ามีการเดินสายไฟที่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้ขอใช้ไฟฟ้าชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
- หากการเดินสายไฟไม่ถูกต้องหรือไม่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้ขอใช้ไฟฟ้าดำเนินการแก้ไข และตรวจสอบใหม่
- การชำระค่าธรรมเนียม:
- ผู้ขอใช้ไฟฟ้าจะต้องชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตามประเภทและขนาดของมิเตอร์ที่ขอติดตั้ง
- หลักฐานการชำระเงินเป็นใบเสร็จจะถือเป็นหลักฐานในการดำเนินการต่อไป
การขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า
การขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้าจากข้อมูลการไฟฟ้านครหลวงมีข้อบังคับและกระบวนการที่เป็นไปตามนี้
- ปฏิบัติตามข้อบังคับ
- ผู้ขอย้ายต้องปฏิบัติตามข้อบังคับการไฟฟ้านครหลวงที่กำหนดถึงการใช้ไฟฟ้าและบริการ พ.ศ. 2535 และ พ.ศ. 2553 รวมทั้งข้อบังคับว่าด้วยอัตราค่าบริการการใช้ไฟฟ้า พ.ศ. 2536
- ไม่มีปัญหาทางและการทำงาน
- การย้ายไม่ควรมีปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับทางแหล่งไฟฟ้าและการทำงานของระบบ
- ไม่เป็นการย้ายสายใต้ดิน:
- การย้ายไม่ควรเป็นการย้ายสายใต้ดิน
- จำกัดจำนวนเสาและสาย:
- จำนวนเสา สาย และอุปกรณ์ที่จะย้ายรวมกันต้องไม่เกิน 25 ต้น
- ไม่มีอุปสรรคจากสาธารณูปโภคอื่น:
- ไม่ควรมีอุปสรรคจากสาธารณูปโภคอื่นที่ติดตั้งหรือพาดบนเสาไฟฟ้า
- การย้ายของระบบสายส่ง
- หากเป็นการย้ายของระบบสายส่งจำนวนไม่ควรเกิน 2 ต้น
- ชำระค่าใช้จ่าย
- ผู้ขอย้ายต้องชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดตามที่ได้รับแจ้ง
- เอกสารและความพร้อมของผู้ยื่นคำขอ
- ผู้ยื่นคำขอต้องนำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการปักเสาพาดสายไฟฟ้าตามแบบฟอร์มที่การไฟฟ้านครหลวงกำหนด เช่น หนังสือรับรองการย้ายและติดตั้งอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า, สัญญาอนุญาตให้ติดตั้งอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า, หนังสือรับรองการปักเสาพาดสายไฟฟ้าในที่ดินสาธารณะ, และหนังสือยินยอมให้สายไฟฟ้าภายในผ่านที่
- การดำเนินการย้าย
- การไฟฟ้านครหลวงจะดำเนินการย้ายเสา สายไฟฟ้าตามระยะเวลาที่กำหนด เมื่อได้รับเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง และไม่นับระยะเวลาระหว่างการรอดำเนินการของผู้ขอใช้ไฟฟ้า
ระยะเวลาในการดำเนินการขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้ามีรายละเอียดดังนี้
- การตรวจสอบเอกสาร
- รับเรื่องขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้าพร้อมรายละเอียดตรวจสอบเอกสารในระยะเวลา 1 วันทำการ
- การพิจารณา สำรวจสถานที่ ทำผัง ออกแบบ และประมาณราคา
- ระยะเวลา 18 วันทำการ เพื่อพิจารณาสถานที่ สำรวจ ทำผัง ออกแบบ และประมาณราคา
- การพิจารณา รวบรวมค่าใช้จ่าย ออกหนังสือแจ้ง
- ระยะเวลา 5 วันทำการ เพื่อพิจารณาและรวบรวมค่าใช้จ่าย และออกหนังสือแจ้ง
- การพิจารณา รับชำระค่าใช้จ่าย ออกคำสั่งงาน
- ระยะเวลา 9 วันทำการ เพื่อพิจารณาและรับชำระค่าใช้จ่าย และออกคำสั่งงาน
- ดำเนินการสายนอก
- ระยะเวลาทำการ 24 วัน เพื่อดำเนินการสายนอกของระบบไฟฟ้า.
รวมระยะเวลาดำเนินการทั้งหมดเป็น 57 วันทำการ
เอกสาร และหลักฐานประกอบในการขอย้ายเสา สาย อุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า
เอกสารและหลักฐานประกอบในการขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้ามีดังนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ
- สำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคล 1 ฉบับ
- สำเนาหนังสือเดินทาง 1 ฉบับ (กรณีคนต่างด้าว)
- สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อผู้ขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า 1 ฉบับ
- สำเนาโฉนดที่ดินบริเวณที่ขอย้ายเสา สาย และอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า 1 ฉบับ
- แผนผังสถานที่ที่ขอย้ายเสา สาย โดยสังเขป 1 ฉบับจริง
- หนังสือรับรองการย้ายและติดตั้งอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า 2 ฉบับ (ตามแบบฟอร์มของการไฟฟ้านครหลวง)
- หนังสือมอบอำนาจ กรณีมีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทน ต้องมีสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ 1 ฉบับ
- สัญญาอนุญาตให้ติดตั้งอุปกรณ์ระบบจ่ายไฟฟ้า (กรณีปักเสาพาดสายในที่ดินเอกชน) 2 ฉบับ (ตามแบบฟอร์มของการไฟฟ้านครหลวง)
- หนังสือรับรองการปักเสาพาดสายไฟฟ้าในที่ดินสาธารณะ (กรณีปักเสาพาดสายในที่ดินสาธารณะ) 2 ฉบับ (ตามแบบฟอร์มของการไฟฟ้านครหลวง)