ล้างเครื่องซักผ้า ต้องเข้าใจก่อนว่า เครื่องซักผ้า เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในบ้านหลายครัว ซึ่งมีประโยชน์ในการล้างผ้าให้สะอาดและหอม แต่หากไม่ได้ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอ จะส่งผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในเครื่องซักผ้าเป็นเวลานาน การไม่ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าจะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดอยู่ที่ผ้า ซึ่งอาจจะทำให้ผ้าที่ซักออกมาไม่หอม และไม่สะอาดตามที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ ยังมีเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจจะสะสมอยู่ในเครื่องซักผ้าเช่นกัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการระเคืองบนผิวหนังของคุณและคนในครอบครัว
ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ควรทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถทำได้โดยการใช้สารทำความสะอาดเครื่องซักผ้า หรือการใช้น้ำหมักสมุนไพร เช่น ผลไม้สด เช่น มะละกอ ส้ม และมะเขือเทศ ซึ่งจะช่วยให้เครื่องซักผ้าของคุณสะอาดและปลอดเชื้อโรคอย่างมีประสิทธิภาพ การล้างเครื่องซักผ้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำเพื่อให้เครื่องซักผ้าของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา ถ้าคุณไม่ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าของคุณอย่างสม่ำเสมอ มีโอกาสที่เชื้อราและแบคทีเรียจะเกาะติดอยู่บนผ้าของคุณ และทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ดังนั้นเพื่อให้เครื่องซักผ้าของคุณทำงานได้ดีและยาวนาน คุณควรทำความสะอาดเครื่องซักผ้าของคุณอย่างสม่ำเสมอ
ทำไมต้องทำความสะอาดเครื่องซักผ้า
การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เครื่องซักผ้าทำงานได้ดีและประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ยังช่วยให้เครื่องซักผ้าใช้งานได้นานยิ่งขึ้น นอกจากนั้นการทำความสะอาดเครื่องซักผ้ายังช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในเครื่องซักผ้าที่อาจเกิดขึ้นได้ และยังช่วยให้ผ้าที่ซักออกมาสะอาดและหอมสดชื่นมากขึ้นด้วย
การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าที่สม่ำเสมอยังช่วยลดความเสียหายของเครื่องซักผ้าได้ด้วย เพราะการใช้งานเครื่องซักผ้าโดยไม่ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมออาจทำให้เชื้อราและแบคทีเรียสะสมอยู่ภายในเครื่องซักผ้าและส่งผลให้เครื่องซักผ้ามีปัญหาในการทำงาน และยังส่งผลให้ผ้าที่ซักออกมาไม่สะอาดหรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ดังนั้นการล้างเครื่องซักผ้าเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นระยะ ๆ และไม่ควรละเว้นการทำเพื่อให้เครื่องซักผ้าสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าด้านนอก อย่างไรให้สะอาดหมดจด
เครื่องซักผ้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานบ่อยและจำเป็นต้องดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เครื่องซักผ้าทำงานได้ดีและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ซึ่งหนึ่งในวิธีการดูแลที่สำคัญคือการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า อาจจะ ต้นไม้ให้ร่มเงาไม่ผลัดใบ ในห้องซักผ้าเพื่อให้ดูดกลิ่นผ้า เพื่อกำจัดคราบผงและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เกาะอยู่บริเวณด้านนอกของเครื่องซักผ้า โดยเฉพาะในบริเวณที่มองเห็นได้ง่าย เช่น ฝุ่นหรือคราบผงซักฟอก และน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เกาะอยู่นอกตัวเครื่องซักผ้า
วิธีทำความสะอาดเครื่องซักผ้าจากจุดที่มองเห็นได้ง่ายบริเวณด้านนอกได้แก่
- ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานและน้ำยาปรับผ้านุ่ม แล้วเช็ดที่บริเวณด้านนอกของเครื่องซักผ้าที่มองเห็นได้ง่าย ใช้แปรงสำหรับทำความสะอาดเครื่องซักผ้าช่วยถ้าจำเป็น
- ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานและน้ำยาปรับผ้านุ่มทำความสะอาดที่ฝาเครื่องซักผ้า โดยใช้แปรงทำความสะอาดช่วยถ้าจำเป็น
- ทำความสะอาดที่ช่องระบายน้ำ โดยใช้แปรงทำความสะอาดช่วยถ้าจำเป็น
- ทำความสะอาดที่ถังซักผ้า โดยเปิดฝาถังซักผ้าและนำสิ่งที่อยู่ในถังออก จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานและน้ำยาปรับผ้านุ่ม เช็ดที่ถังซักผ้าโดยให้มีการถูผิวถังอย่างสม่ำเสมอ
- ทำความสะอาดที่ประตูฝั่งหลังของเครื่องซักผ้า โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานและน้ำยาปรับผ้านุ่ม เช็ดที่ประตูฝั่งหลังของเครื่องซักผ้าให้สะอาด จากนั้นปิดประตูฝั่งหลังของเครื่องซักผ้า
- ทำความสะอาดที่ฝาปิดของเครื่องซักผ้า โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานและน้ำยาปรับผ้านุ่ม เช็ดที่ฝาปิดของเครื่องซักผ้าให้สะอาด จากนั้นปิดฝาปิดของเครื่องซักผ้า
- ทำความสะอาดที่ช่องใส่น้ำยาซักผ้า โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานและน้ำยาปรับผ้านุ่ม เช็ดที่ช่องใส่น้ำยาซักผ้าให้สะอาด
การล้างเครื่องซักผ้าจากจุดที่มองเห็นได้ง่ายบริเวณด้านนอก จะช่วยให้เครื่องซักผ้าสะอาดและพร้อมใช้งานได้เสมอ และลดโอกาสในการเกิดอุปสรรคหรือความเสียหายกับเครื่องซักผ้าในอนาคตอาจจะมีการใช้งานที่หลากหลายและมีความซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นการดูแลรักษาและทำความสะอาดเครื่องซักผ้าจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากวิธีการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าจากจุดที่มองเห็นได้ง่ายบริเวณด้านนอกแล้ว ยังมีการทำความสะอาดภายในเครื่องซักผ้าอีกด้วย
ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าภายในให้สะอาด มีขั้นตอนอย่างไร ?
วิธีการทำความสะอาดภายในเครื่องซักผ้าจากบริเวณภายใน ได้แก่
- ตรวจสอบฝาเปิดเครื่องซักผ้าว่าเป็นสังกะสีหรือไม่ หากเป็นสังกะสีจะต้องทำการทำความสะอาดและขัดล้างด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นและน้ำยาล้างจาน หากไม่ใช่สังกะสีสามารถใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นและน้ำยาล้างจานทำความสะอาดได้เช่นกัน
- ทำความสะอาดที่ถังซักผ้า โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดและสามารถใช้สารทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ซักผ้าในผงที่ผสมน้ำได้ ซึ่งจะช่วยทำความสะอาดถังซักผ้าได้ดีขึ้น
- ทำความสะอาดที่ช่องระบายน้ำ โดยใช้แปรงเล็ก ๆ ทำความสะอาดร่องระบายน้ำให้สะอาด
- ทำความสะอาดที่ช่องใส่น้ำยาซักผ้า โดยใช้แปรงทำความสะอาดช่วยถ้าจำเป็น เพื่อกำจัดคราบและสิ่งสกปรกที่อยู่ในช่องนี้
- ทำความสะอาดที่ช่องใส่ผงซักฟอก โดยใช้แปรงทำความสะอาดช่วยถ้าจำเป็น เพื่อกำจัดคราบผงซักฟอกและสิ่งสกปรกอื่น ๆ ที่อยู่ในช่องนี้
- ทำความสะอาดที่หม้อกดน้ำหน้าเครื่องซักผ้า โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานและน้ำยาปรับผ้านุ่ม สามารถใช้แปรงทำความสะอาดช่วยถ้าจำเป็น จากนั้นปิดหม้อกดน้ำหน้าเครื่องซักผ้า
- ทำความสะอาดที่เครื่องดูดน้ำ โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานและน้ำยาปรับผ้านุ่ม เช็ดเครื่องดูดน้ำให้สะอาดและหมุนทดสอบว่าทำงานได้ถูกต้องหรือไม่
การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าภายในนอกจากจะช่วยให้เครื่องซักผ้าสะอาดและพร้อมใช้งานได้เสมอแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องซักผ้าอีกด้วย
ล้างเครื่องซักผ้า ควรทำบ่อยแค่ไหน ?
หากต้องการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า หลายคนคงมีคำถามว่าควรทำบ่อยแค่ไหน และวันนี้เราได้หาคำตอบมาให้ดังนี้ การล้างเครื่องซักผ้าควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หรือตามความจำเป็นของการใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อใช้งานบ่อยหรือซักผ้าที่มีความเสียหายจากเชื้อราและแบคทีเรีย นอกจากนี้ ยังควรทำความสะอาดถังซักผ้า ที่ฝาเครื่องซักผ้า และสายยางประสานกับฝาเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราและกลิ่นไม่พึงประสงค์ อย่างไรก็ตามหากต้องการให้เสื้อผ้าที่ซักมีกลิ่นหอมหลังจากซัก อาจจะต้องล้างบ่อยกว่านี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าสามารถ จัดสวนหน้าบ้านด้วยตนเอง และให้พื้นที่เป็นที่ใช้ตากเสื้อผ้าได้ดีได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรทำความสะอาดเครื่องซักผ้าแรงเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการสึกกร่อนของเครื่องซักผ้าได้ นอกจากนี้ ควรใช้สารซักผ้าที่เหมาะสมกับชนิดของผ้า เพื่อป้องกันการทำลายเนื้อผ้าและสีผ้า สุดท้ายนี้ หากต้องการให้เครื่องซักผ้าใช้งานได้ยาวนานและลดค่าใช้จ่ายในการซักผ้า ควรตรวจสอบและทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ของเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอ และไม่ควรเติมผงซักผ้าหรือน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มมากเกินไปในทุกครั้งที่ซักผ้า เพราะอาจทำให้เครื่องซักผ้ามีปัญหาในการทำงานได้ในภายหลัง
