ไล่นกพิราบ มีวิธีอย่างไรให้ได้ผล ทำได้ด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ 

ไล่นกพิราบ

นกพิราบเป็นสัตว์ปีกที่อาจเป็นพาหะนำโรคติดต่อหลายชนิดมาสู่มนุษย์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมูลของนกพิราบที่อาจปนเปื้อนเชื้อราและแบคทีเรียก่อโรค หากสูดดมละอองเชื้อโรคเหล่านี้เข้าไปอาจนำไปสู่โรคปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือแม้แต่โรคร้ายแรงอย่างคริปโตคอกโคสิส ดังนั้น การหลีกเลี่ยงและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคจากนกพิราบจึงเป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้น การไล่นกพิราบจึงเป็นวิธีการหนึ่งที่จำเป็นและสามารถทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาเรื่องมูลนกและโรคติดต่อจากนกพิราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำความรู้จักกับนกพิราบ

นกพิราบ ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Rock Pigeon หรือ Rock Dove เป็นสัตว์ปีกที่มีความสัมพันธ์อันยาวนานกับมนุษย์ นกชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในทวีปยุโรป แอฟริกาเหนือ และบริเวณตะวันตกของทวีปเอเชีย ก่อนที่จะแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลก เนื่องจากความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างดีเยี่ยม

ในอดีต นกพิราบถูกนำมาเลี้ยงไว้เพื่อหลากหลายวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความสวยงาม การสื่อสาร หรือแม้แต่การนำมาประกอบเป็นอาหาร นกพิราบเป็นสัตว์ปีกที่มีร่างกายแข็งแรง สามารถบินได้ระยะทางไกลถึงหลายร้อยกิโลเมตรต่อวัน จึงเหมาะสำหรับการเดินทางไกล อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน นกพิราบกลายเป็นสัตว์รบกวนในเมืองใหญ่ ๆ เนื่องจากการเพิ่มจำนวนประชากรอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มูลนกและการทำรังบนอาคารสูงต่าง ๆ จากการติดเครดิตบูโร กลายเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย จึงมีความพยายามในการควบคุมจำนวนประชากรของนกพิราบในบางพื้นที่

นกพิราบ

วิธีไล่นกพิราบได้ง่าย ๆ ที่ได้ผลจริง

การไล่นกพิราบออกจากระเบียงและหลังคาของบ้านไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ต้องใช้วิธีที่รุนแรงหรือใช้สารเคมีอันตราย เราสามารถทำได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่มีประสิทธิภาพ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างบ้างที่จะช่วยให้เราไล่นกพิราบไปอย่างสะดวกสบายและปลอดภัยกันบ้าง

  • การใช้เคเบิลไทร์หรือเข็มขัดรัดสายไฟสามารถช่วยไล่นกพิราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการรัดไว้ที่ระเบียงโดยไม่ต้องตัดส่วนที่เหลือ เนื่องจากเส้นที่หนามออกมาจะทำหน้าที่เป็นอุปสรรคต่อการเกาะของนก โดยที่ไม่ทำให้นกบาดเจ็บหรือเจ็บเมื่อมนุษย์สัมผัส แต่ควรรัดเพื่อไม่ให้เหลือช่องว่างให้นกบินลงมาได้
  • หนามกันนกทำเอง การใช้ลวดเส้นเล็กปักลงบนฟิวเจอร์บอร์ดในแนวตั้งจะช่วยในการป้องกันนกพิราบเข้ามาเกาะได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเมื่อนกมาเกาะจะทำให้ลวดทิ่มทั้งเท้าและลำตัวจนไม่สามารถบินมาเกาะอีก
  • การใช้ไม้อัดและตะปูจะเป็นวิธีอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยในการไล่นกพิราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการตอกตะปูลงไปบนแผ่นไม้อัดถี่ ๆ จากนั้นนำไม้อัดไปวางหงายเพื่อช่วยยึดระหว่างพื้นระเบียงหรือหลังคา
  • ติดตาข่ายพีวีซี การใช้ตาข่ายพีวีซีขึงปิดช่องว่างระหว่างเพดานกับพื้นระเบียงจะช่วยป้องกันไม่ให้นกพิราบบินเข้ามาในระเบียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • กำจัดรังนกและการป้องกันไม่ให้มีเศษหญ้าหรือเศษไม้ที่นกนำมาทำรังก็เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดการเกาะของนกพิราบได้
  • ใช้แผ่นซีดีสะท้อนแสง
  • การใช้แผ่นซีดีเก่ามาร้อยเข้าด้วยกันแล้วนำไปแขวนตามระเบียงหรือหลังคาจะช่วยไล่นกพิราบได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อมีแสงสะท้อนวิบวับ
  • เลี้ยงสัตว์ การให้เจ้าตูบและเจ้าเหมียวเป็นผู้อารักขาระเบียงจะช่วยในการไล่นกพิราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ปูกระดาษหนังสือพิมพ์ไปปูบริเวณที่นกชอบมาเกาะหรือทำรังจะช่วยในการไล่นกพิราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การแขวนโมบายที่มีเสียงเมื่อโดนลมพัดหรือโดนปีกนกพิราบที่บินมาใกล้จะช่วยในการไล่นกพิราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การฉีดน้ำไล่ให้กับนกพิราบทุกครั้งที่มันบินเข้ามาเกาะระเบียงหรือหลังคาจะช่วยในการไล่นกพิราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การวางลูกเหม็นบริเวณที่นกชอบมาเกาะหรือทำรังแล้วเปลี่ยนใหม่เรื่อย ๆ เมื่อกลิ่นจางก็จะช่วยในการไล่นกพิราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นกพิราบก่อให้เกิดโรค

นกพิราบก่อให้เกิดโรคอะไรบ้าง

นกพิราบเป็นสัตว์ปีกที่พบได้ทั่วไปในเมืองใหญ่ แม้จะคุ้นเคยกับการอยู่ร่วมกับมนุษย์มานาน แต่นกพิราบก็อาจเป็นพาหะนำโรคร้ายหลายชนิดมาสู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและมนุษย์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมูลของนกพิราบ ซึ่งอาจปนเปื้อนเชื้อราและแบคทีเรียต่าง ๆ ดังนี้

  • โรคคริปโตคอกโคสิส (Cryptococcosis) เป็นโรคติดเชื้อราชนิดหนึ่งชื่อ Cryptococcus neoformans ซึ่งพบได้ในมูลนกพิราบ โรคนี้มักเกิดกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยเอดส์ โดยเชื้อราสามารถแพร่กระจายทางอากาศและเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจ ซึ่งอาจลามไปยังสมองและเยื่อหุ้มสมองได้ ถือเป็นโรคที่รุนแรงและเสี่ยงถึงชีวิต
  • โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อจากสิ่งแวดล้อมหรืออาหารที่ปนเปื้อน ซึ่งมูลของนกพิราบก็อาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อได้เช่นกัน โรคนี้มีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน และหากรักษาไม่ทันอาจทำให้สมองถูกทำลายได้
  • โรคปอดอักเสบ เกิดจากการสูดดมละอองเชื้อราหรือแบคทีเรียจากมูลนกพิราบเข้าไปในปอด ซึ่งหนึ่งในแบคทีเรียที่พบในนกพิราบคือ คลามิเดีย ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการปอดบวมได้

ดังนั้น แม้นกพิราบจะอยู่คู่กับมนุษย์มายาวนาน แต่หากไม่มีการควบคุมจำนวนประชากรและรักษาความสะอาดบริเวณที่มีมูลนกพิราบหรือกำจัดปลวกอย่างเหมาะสม ก็อาจนำพาโรคร้ายมาสู่มนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ การดูแลสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคเหล่านี้ 

วิธีป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อราจากนกพิราบ

นกพิราบเป็นสัตว์ปีกที่อาจเป็นพาหะนำโรคติดต่อหลายชนิดมาสู่มนุษย์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมูลของนกพิราบที่อาจปนเปื้อนเชื้อราและแบคทีเรียก่อโรค หากสูดดมละอองเชื้อโรคเหล่านี้เข้าไปอาจนำไปสู่โรคปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือแม้แต่โรคร้ายแรงอย่างคริปโตคอกโคสิส ดังนั้น การหลีกเลี่ยงและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคจากนกพิราบจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยมีแนวทางปฏิบัติด้วยวิธีไล่นกพิราบแบบถาวร ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสและอยู่ใกล้ชิดฝูงนกพิราบ หากจำเป็นต้องอยู่บริเวณนั้นให้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นละอองและละอองเชื้อโรค
  • ไม่ควรให้อาหารหรือดึงดูดให้นกพิราบมาอาศัยอยู่บริเวณบ้าน สำนักงาน หรือสถานที่สาธารณะ และควรหาวิธีการไล่นกพิราบออกจากพื้นที่อย่างถูกวิธี
  • หมั่นรักษาความสะอาดบริเวณที่อาจมีมูลนกพิราบปนเปื้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าต่าง ระเบียงหรือร่องระบายน้ำ ควรสวมถุงมือและหน้ากากขณะทำความสะอาด
  • ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำสะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสบริเวณที่อาจมีมูลนกพิราบ หรือหลังจากทำความสะอาดบริเวณที่มีละอองมูลนกปนเปื้อน

บทสรุป 

การแก้ปัญหานกพิราบอย่างยั่งยืนนั้น จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐในการบังคับใช้กฎหมาย ภาคเอกชนในการรักษาความสะอาดสถานที่ และประชาชนในการหลีกเลี่ยงการกระทำที่ส่งเสริมการแพร่กระจายของนกพิราบ เช่น การให้อาหารนกตามที่สาธารณะ เป็นต้น หากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจังแล้ว การไล่นกพิราบย่อมสามารถควบคุมและแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นกพิราบ
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments

บทความใกล้เคียง

ติดต่อเรา