วิธีแก้ส้วมตันอย่างไร ที่ทำให้หมดปัญหาไปได้ง่าย ๆ

วิธีแก้ส้วมตันอย่างไร

วิธีแก้ส้วมตัน ปัญหาส้วมตันหรือชักโครกกดไม่ลงเป็นปัญหาที่พบเห็นบ่อย ๆ ในทุกบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากการมีสิ่งของต่าง ๆ ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เข้าไปอุดตันในท่อ จนทำให้น้ำไม่สามารถไหลผ่านไปได้ และทำให้ชักโครกเกิดอาการกดไม่ลง ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นทั่วบ้าน และหากส้วมตันมาก ๆ อาจทำให้สิ่งที่เราได้ขับถ่ายไว้ย้อนกลับทะลักขึ้นมาจากโถส้วม ทำให้สกปรก เลอะเทอะห้องน้ำของเราอีกด้วย วิธีแก้ส้วมตัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาส้วมตันนี้ เราสามารถเริ่มต้นจากตัวเราเองได้ โดยการที่เราไม่ควรทิ้งสิ่งของที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ หรือสิ่งของที่ใช้เวลาย่อยสลายได้ยากลงไปในโถส้วม เรายังสามารถใช้วิธีการอื่น ๆ เช่น การใช้สารเคมีชนิดต่าง ๆ เพื่อช่วยย่อยสลายสิ่งของในโถส้วม หรือการใช้ท่อล้างจานแบบมีการบีบอัดลงไปในท่อเพื่อช่วยล้างสิ่งของที่ติดอยู่ในท่อออกมา

ดังนั้นการจัดการกับปัญหาส้วมตันนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำให้ได้ ไม่เพียงเพื่อให้บ้านของเราสะอาดและไม่มีกลิ่นเหม็น แต่ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วย โดยการลดปริมาณสิ่งของที่เข้าไปในโถส้วม จะช่วยลดปัญหาส้วมตันได้มากขึ้น การเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมกับสิ่งของที่ต้องการจะทิ้งไปในโถส้วมก็เป็นสิ่งสำคัญอีกด้วย เช่น การทิ้งขยะแยกประเภท หรือการนำของที่ยังใช้งานได้ออกมาให้ผู้อื่นนำไปใช้งานต่อได้ สุดท้ายแล้ว การรักษาสิ่งแวดล้อมเริ่มต้นจากตัวเราเอง โดยการดูแลสิ่งแวดล้อมในบ้านเราให้สะอาดและเป็นระเบียบ รวมถึงการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดปัญหาส้วมตันและปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ปลูก ไม้ประดับ ให้สวยงามได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนในระยะยาว

วิธีแก้ส้วมตันอย่างไร แก้ส้วมตันง่าย ๆ ด้วยตนเอง

เมื่อมีปัญหาเรื่องส้วมตัน ไม่จำเป็นต้องไปหาช่างทำทันที คุณสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยตนเอง ด้วยวิธีแก้ส้วมตันง่าย ๆ ดังนี้

  1. ใช้น้ำยาล้างจาน
  2. ผสมน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะ
  3.  เทน้ำผสมลงในท่อระบายน้ำ
  4. รอให้น้ำยาล้างจานทำงานฟอกสิ่งสกปรกในท่อ
  5. ใช้น้ำเปล่าชะล้างท่อให้สะอาด
  6. ใช้โซดาไฟในการขจัดส้วมตัน
  7. หยอดโซดาไฟลงในท่อระบายน้ำที่มีส้วมตัน
  8. เทน้ำร้อนลงในท่อ รอประมาณ 30 นาที
  9. ใช้น้ำเปล่าชะล้างท่อให้สะอาด
  10. ใช้เครื่องสูบน้ำดูดสิ่งสกปรกในท่อ
  11. ใช้เครื่องดูดน้ำที่มีลูกกลิ้งเพื่อดูดสิ่งสกปรกในท่อ
  12. ติดตั้งลูกกลิ้งลงไปในท่อ แล้วใช้เครื่องดูดน้ำดูดสิ่งสกปรก
  13. ใช้น้ำเปล่าชะล้างท่อให้สะอาด

การลองใช้วิธีต่าง ๆ ในการแก้ไขส้วมตันก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหานี้ แต่ในบางกรณีอาจจะไม่เหมาะสมหรือไม่ได้ผลดีเท่าที่คาดหวัง ดังนั้นหากส้วมตันยังคงเป็นปัญหาและไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองได้ ควรติดต่อผู้เชี่ยวชาญทางด้านประปาและการระบายน้ำเพื่อขอคำแนะนำและการช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหานี้อย่างมืออาชีพ ไม่ควรปล่อยปัญหานี้ไว้นานเพราะส้วมตันอาจก่อให้เกิดความเสียหายและภัยคุกคามต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้ในภายหลัง

การป้องกันและการดูแลรักษาส้วมตัน

การป้องกันและการดูแลรักษาส้วมตัน วิธีแก้ส้วมตัน มีหลายวิธีดังนี้

  • การรักษาความสะอาดของบ้าน ส้วมตันมักเกิดขึ้นเพราะความเหมาะสมของสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะการสะอาดของบ้าน ดังนั้นการรักษาความสะอาดของบ้านโดยทั่วไปจะช่วยลดโอกาสในการเกิดส้วมตันได้มาก
  • การตรวจสอบท่อระบายน้ำ ทั้งภายในและภายนอกบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญในการป้องกันส้วมตัน เนื่องจากน้ำที่ขัดต่อกันสามารถเป็นสาเหตุให้เกิดการสะสมของน้ำในท่อได้
  • การตรวจสอบระบบอากาศในบ้านเพื่อให้มีการไหลเวียนของอากาศที่ดี เพื่อลดความชื้นในบ้าน ทำให้ลดโอกาสในการเกิดส้วมตันได้
  • การใช้เครื่องฟอกอากาศ ช่วยลดความชื้นในบริเวณใกล้เคียงและทำให้ไม่มีการสะสมของน้ำในบ้าน ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดส้วมตันได้
  • การใช้เครื่องซับความชื้น ช่วยลดความชื้นในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดส้วมตันได้
  • รักษาระบบย่อยสลายอย่างสม่ำเสมอ การทิ้งขยะอย่างไม่เหมาะสมหรืออาหารที่เน่าเปื่อยเป็นต้นอาจก่อให้เกิดแบคทีเรียและส่งผลให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยย่อยสลายสิ่งสกปรกอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น บาซิลัสซับทิเจียน จะช่วยลดปริมาณสารอินทรีย์ที่สะสมอยู่ในระบบท่อระบายน้ำเสียและป้องกันการเกิดส้วมตันใหม่
  • ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่น หากส้วมตันเกิดจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่ติดอยู่ในสิ่งของ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นบริเวณที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
  • ใช้หินปูนขาว จะช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และป้องกันการเกิดส้วมตันได้ดี เนื่องจากมีความสามารถในการดูดความชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ

การดูแลรักษาส้วมตันเป็นเรื่องสำคัญเพื่อป้องกันการกลับมาซ้ำอีกครั้ง ดังนั้น การป้องกันเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยมีวิธีการป้องกันหลายวิธีด้วยกัน เช่น เปลี่ยนเครื่องใช้ที่เป็นตัวกลางให้น้อยลง การทำความสะอาดบ่อยครั้ง รวมถึงการใช้เครื่องทำลมเพื่อรักษาความสะอาดของอากาศในบ้าน เป็นต้น

จุดที่ต้องตรวจเช็ค เพื่อการแก้ปัญหาส้วมตัน

จุดที่ต้องตรวจเช็ค เพื่อการแก้ปัญหาส้วมตัน

ส้วมดูจะเป็นปัญหาที่หนักหนาอีกประการหนึ่ง ทั้งในขณะที่น้ำท่วมก็มักจะราดไม่ลง หรือแม้ว่าน้ำลดแล้วส้วมของเราก็มักยังเป็นปัญหาอยู่ อาจจะเป็นปัญหาดั้งเดิม หรือเป็นปัญหาเกิดใหม่ จึงขอสรุปรวมปัญหาที่เกิดกับส้วมวิธีแก้ส้วมตัน ควรระมัดระวัง ตะขาบบ้าน ที่อาจจะมากวนใจและแบ่งจุดที่ควรตรวจเช็คดังต่อไปนี้

1. เช็คระบบของส้วมเรา ถ้าเป็นส้วมระบบบ่อเกรอะ-บ่อซึม (หมายถึงเมื่อของเสียย่อยสลายแล้ว จะซึมผ่านสู่พื้นดิน ระบบนี้เป็นระบบที่นิยมกันทั่วประเทศเป็นเวลานาน) ให้สำรวจบ่อซึมว่าวางอยู่ตรงบริเวณที่พื้นดินชื้นแฉะหรือไม่ เพราะบ่อซึมจะไม่สามารถซึมน้ำออกในบ่อออกไปได้ และในยามที่น้ำท่วม น้ำที่ท่วมนั้นก็จะไหลย้อนกลับเข้ามาในบ่อและระบบย่อยสลายอีกด้วย

2. เช็คระดับของโถส้วม ถ้าอยู่ระดับต่ำกว่าหรือใกล้เคียงกับระดับบ่อเกรอะหรือถังส้วมสำเร็จรูป จะทำให้ระนาบของท่อส้วมไหลไม่สะดวก หรือบางครั้งอาจจะมีอาการไหลย้อนกลับ โดยเฉพาะในยามน้ำท่วมทำให้ระดับน้ำตรงถังส้วมสูงกว่าระดับโถส้วม เป็นอีกสาเหตุของการเกิดอาการราดน้ำไม่ลง หรือตอนกดน้ำและราดน้ำที่โถส้วมทำให้ในโถส้วมมีแรงดันสูงมากขึ้น หากน้ำไม่สามารถไหลลงไปได้ก็จะเกิดอาการแรงดันย้อนกลับ ทำให้ของเสียทั้งหลายอาจกระฉอกขึ้นเปรอะเปื้อนได้

3. เช็คท่อส้วมเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากอาจเกิดการแตกหรืออาจถูกฝังในพื้นดินได้ จึงทำให้เกิดกลิ่นเหม็นและเมื่อราดส้วมก็ไม่ค่อยไหลลง เนื่องจากมีการเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมภายนอกอย่างมาก

4. เช็คท่ออากาศเป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะลืมทำ เนื่องจากส้วมต้องการอากาศสะอาดในการหายใจ เมื่อราดน้ำแต่ไม่มีการระบายอากาศออกจะทำให้ราดไม่ลง สามารถเปรียบเทียบได้กับการกรอกน้ำลงในขวดโดยไม่มีช่องอากาศ เมื่อเหลือแต่ปากขวดก็จะกรอกน้ำไม่ลงเช่นเดียวกัน บางบ้านอาจมีท่ออากาศ แต่ท่ออากาศอาจอุดตันได้ไม่ว่าจะเกิดจากความสกปรกหรือเศษผงเล็กลอยมาอุดตอนที่น้ำท่วมก็ได้ ดังนั้นการเช็คท่ออากาศเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำเพื่อให้ส้วมได้รับอากาศสะอาดในการหายใจได้ถูกต้องและสม่ำเสมอ

4. ตรวจสอบขนาดของบ่อเกรอะบ่อซึมหรือถังบำบัดสำเร็จรูปว่ามีขนาดเล็กเกินไปหรือไม่ เนื่องจากบางครั้งเราอาจใช้อุปกรณ์ผิดประเภท เช่น ออกแบบไว้สำหรับบ้านที่มี 5 คน แต่จริง ๆ มีผู้ใช้งานถึง 8-9 คน การใช้งานจึงมีปริมาณของเสียต่าง ๆ มากกว่าอุปกรณ์ที่เตรียมไว้ ทำให้ถังส้วมหรือบ่อซึมเต็มได้เร็วขึ้น เนื่องจากมีช่องว่างน้อยลง ในกรณีที่เป็นระบบบ่อซึม ยังมีพื้นผิวการซึมน้ำออกน้อยลง ทำให้น้ำซึมออกไม่ทัน

5. ตรวจสอบท่อส้วมว่ามีสิ่งอุดตันหรือไม่ บางครั้งผู้ใช้งานอาจใส่สิ่งของที่ไม่ควรใส่ลงในถังส้วม เช่น ผ้าอนามัย ถุงยางอนามัย ถุงมืออนามัย หรือ แปรงขัดส้วมอนามัย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะไม่ย่อยสลายและเป็นสาเหตุของการอุดตัน เช่นเดียวกับวัสดุอื่น ๆ ที่ไม่ควรปล่อยลงในท่อส้วม นอกจากนี้ สิ่งของบางอย่างอาจลอยมากับน้ำท่วมและก่อให้เกิดการอุดตันด้วย

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments

บทความใกล้เคียง

ติดต่อเรา