ต้นตีนเป็ด หรือต้นสัตบรรณเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะทรงพุ่มคล้ายฉัตร และเป็นเครื่องชั้นสูงที่ใช้ในขบวนแห่ ซึ่งมักจะมีชื่อว่า “สัต” โดยมีความหมายว่า 7 อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของคุณธรรมและความเป็นสิ่งดีงามอีกด้วย การปลูกสัตบรรณในบ้านสามารถทำให้ได้รับความเคารพและยกย่องจากคนอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราปลูกไว้ในสถานที่สำคัญ หรือรั้วเพื่อนบ้านของเรา ซึ่งจะเป็นที่มาของความเชื่อที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับคุณค่าและความสำคัญของต้นไม้ชนิดนี้ในวัฒนธรรมไทย
ต้นตีนเป็ดมีกลิ่นหอมกระจายออกมา บางคนเรียกกลิ่นนี้ว่า “หอมชื่นใจ” แต่บางคนก็ว่ามีกลิ่นเหม็นจนเวียนหัว ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ต้นตีนเป็ดกลายเป็นสัญลักษณ์ของฤดูหนาวและเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดสมุทรสาคร นอกจากจะเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาแล้ว ต้นตีนเป็ดยังมีสรรพคุณดี ๆ ในฐานะของสมุนไพรไทย ทำให้เป็นที่นิยมใช้ในการรักษาอาการต่าง ๆ ไม้พญาสัตบรรณจะมีส่วนผสมที่ใช้ในการรักษาโรคเบาหวาน ปวดศีรษะ และอาการปวดเมื่อยต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีสารสำคัญอย่างไฮโดรคอร์ทิโซลที่ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้อีกด้วย ในการใช้พญาสัตบรรณเป็นสมุนไพรในการรักษาโรค สามารถนำดอกพญาสัตบรรณมาใช้ในการชงเป็นชาหรือเจลลี่และนำไปประคบตัวได้ โดยมีผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร ลดอาการอักเสบ ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายดังนั้น ไม้พญาสัตบรรณหรือต้นตีนเป็ดเป็นต้นไม้ที่มีความสวยงามและมีคุณค่าทางสมุนไพรสูง
ลักษณะของต้นตีนเป็ด
ต้นตีนเป็ดมีลักษณะเป็นต้นไม้ที่มีเปลือกหนาและเปราะ ผิวต้นมีสะเก็ดเล็ก ๆ สีขาวปนน้ำตาล ถ้ากรีดดูจะมีน้ำยางสีขาวลำต้นตรงและกิ่งก้านสาขาที่แตกออกมาจะมีลักษณะเป็นชั้น ๆ โดยเปลือกชั้นในจะมีสีน้ำตาลและมีน้ำยางสีขาว ใบเป็นกลุ่มบริเวณปลายกิ่งที่มีใบประมาณ 5-7 ใบ โดยมีก้านใบสั้น และแผ่นใบมีรูปรีแกมหรือรูปบรรทัดและปลายใบจะเป็นติ่งเล็กน้อย ใบด้านบนมีสีเขียวเข้ม ส่วนด้านล่างมีสีขาวนวล ถ้าเด็ดก้านใบจะมีน้ำยางสีขาว ลักษณะของใบเป็นยาวรีปลายใบมนโคนใบแหลม
โดยขนาดของใบยาวประมาณ 10-12 เซนติเมตร ดอกจะเป็นกลีบสีเขียวอ่อนและจะออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ปากท่อของกลีบดอกจะมีขนยาวปุกปุย ดอกจะมีกลิ่นฉุนรุนแรง ถ้าสูดดมเพียงเล็กน้อยจะรู้สึกกลิ่นหอม แต่ถ้าสูดดมมากจะรู้สึกวิงเวียนศีรษะ ช่วงค่ำจะมีกลิ่นแรงกว่าเวลาอื่น ๆ ดอกจะออกเป็นกลุ่มคล้ายดอกเข็มช่อหนึ่งซึ่งจะมีกลุ่มดอกประมาณ 7 กลุ่ม และดอกจะมีสีขาวอมเหลือง
ต้นพญาสักตะบัน โทษพญาสัตบรรณยังเป็นต้นไม้ที่มีความสวยงามและมีความหลากหลายของสีด้วย ดอกตีนเป็ดจะมีลักษณะเป็นดอกดาวเรือง ทำให้เป็นที่นิยมปลูกเพื่อใช้ในการตกแต่งสวนหรือพื้นที่ในบ้านได้เป็นอย่างดี สามารถปลูกได้ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย โดยใช้วิธีการปลูกเมล็ดหรือการปลูกชำก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม การปลูกพญาสัตบรรณจะต้องคำนึงถึงการดูแลรักษาต้นไม้อย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถเติบโตและให้ผลผลิตได้อย่างเต็มที่
วิธีปลูก
การปลูกต้นตีนเป็ดจะไม่ยุ่งยากมากนัก เพราะเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ตามที่ดินเหมาะสม โดยสามารถปลูกได้ทั้งในพื้นที่แล้งและชื้น และไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยหรือสารเคมีเพื่อเลี้ยงดู การให้น้ำเป็นสิ่งสำคัญในการเลี้ยงต้นตีนเป็ด โดยจะต้องให้น้ำสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการแห้งแล้ง โดยทั่วไปจะให้น้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งโดยต้องเติมน้ำให้เต็มถังน้ำก่อนลงปลูกและต้องระมัดระวังการให้น้ำมากเกินไปเพราะจะทำให้ต้นตีนเป็ดเหี่ยวแห้งและเสียหายได้ง่าย ๆ
การปลูกต้นตีนเป็ดจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ปี ซึ่งในช่วงนี้ต้องดูแลต้นตีนเป็ดอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตที่ไม่สมบูรณ์ หากสามารถดูแลต้นตีนเป็ดได้อย่างดีจะทำให้ได้ผลผลิตที่สมบูรณ์และมีคุณภาพดี นอกจากนี้การปลูกต้นตีนเป็ดยังเป็นกิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับการทำสวนดอกไม้สีขาวผสมผสานและเป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้เสริมให้กับชุมชนในพื้นที่นั้นๆ
ข้อควรระวังของต้นตีนเป็ด หรือพญาสัตบรรณ
ต้นตีนเป็ด (Alstonia scholaris) และต้นตีนเป็ดน้ำหรือต้นตีนเป็ดทะเล (Cerbera odollam) เป็นพืชที่ไม่เหมือนกัน ถึงแม้ชื่อที่เหมือนกัน แต่พวกเขามีลักษณะทางกายภาพและเป้าหมายการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนต้นตีนเป็ดน้ำหรือต้นตีนเป็ดทะเลมีลำต้นเล็กกว่าต้นตีนเป็ด และพบได้บ่อยในบริเวณริมน้ำ ริมคลอง หรือป่าชายเลน ดอกของต้นตีนเป็ดน้ำมีสีขาวและมีกลิ่นอ่อนๆ ส่วนผลเป็นลูกกลมๆ หากลูกหลุดจากต้นแล้วแห้ง สามารถนำมารดน้ำปลูกเป็นต้นใหม่ได้
ในขณะที่ต้นพญาสักตะบัน ความเชื่อต้นตีนเป็ดมีลำต้นสูงใหญ่กว่าต้นตีนเป็ดน้ำ ดอกของต้นตีนเป็ดจะเป็นช่อคล้ายดอกเข็ม แต่มีผลออกมาเป็นฝักยาว เส้นๆ กลมเรียว และส่งกลิ่นได้เข้มข้นรุนแรงกว่าต้นตีนเป็ดน้ำ นอกจากนี้ ต้นตีนเป็ดยังมีคุณสมบัติทางการแพทย์และเป็นส่วนประกอบของยาระงับปวด อีกทั้งยังใช้เป็นวัสดุเครื่องมือในงานช่างไม้ด้วย
ประโยชน์ดีๆ ต่อสุขภาพของต้นตีนเป็ด
เปลือกของลำต้นมีคุณสมบัติทางยาที่ช่วยในการรักษาหลาย ๆ โรค อาทิเช่น ช่วยเจริญอาหารและลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยบรรเทาอาการของโรคเบาหวาน และแก้หวัด แก้ไอ และบรรเทาอาการหลอดลมอักเสบได้ด้วย เปลือกของลำต้นยังช่วยในการรักษาโรคบิด ท้องร่วง ท้องเดินเรื้อรัง โรคลำไส้ และลำไส้ติดเชื้อได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ต้มน้ำอาบเพื่อลดอาการผื่นคันได้ด้วย ในขณะที่ยางจากลำต้นสามารถใช้หยอดหูเพื่อแก้ปวดหูและใช้อุดฟันเพื่อบรรเทาอาการปวดฟันได้ด้วย ใบอ่อนสามารถนำมาต้มเพื่อดื่มเพื่อรักษาโรคลักปิดและลักเปิดได้ สำหรับใบและยาง ชาวอินเดียใช้เพื่อรักษาแผล แผลเปื่อย แผลตุ่มหนอง และอาการปวดข้อได้อีกด้วย
ต้นตีนเป็ดไหนมีพิษ?
ต้นตีนเป็ดเป็นชื่อที่ใช้เรียกหลายชนิดของพรรณไม้ที่มีลักษณะเด่นคือ ใบคล้ายรูปร่างของเท้านกพิราบหรือเท้านกยูง โดยจะมีต้นกลางยาวและเป็นท่อนๆ ที่แตกต่างกันไปตามชนิดของต้นตีนเป็ด อาจมีลักษณะเป็นพุ่มหรือต้นใหญ่สูงถึง 20 เมตร
ชนิดของต้นตีนเป็ด ต้นวาสนา ที่มักจะเจอในประเทศไทยได้แก่ ต้นตีนเป็ดเล็ก (Scientific name: Schefflera wallichiana) ที่มีใบเล็กๆ และแตกต่างกันไปตามลักษณะของต้น และต้นตีนเป็ดใหญ่ (Scientific name: Schefflera macrophylla) ที่มีใบใหญ่กว่าและเป็นต้นใหญ่สูงถึง 20 เมตร นอกจากนี้ยังมีชนิดอื่น ๆ อีกหลายชนิดที่มีชื่อว่า ต้นตีนเป็ดพุ่ม (Scientific name: Schefflera elliptica) และ ต้นตีนเป็ดฝ้าย (Scientific name: Schefflera leucantha) ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันไปอีกตามชนิดของต้นตีนเป็ดนั้น ๆ
ต้นตีนเป็ดน้ำ หรือ ต้นตีนเป็ดทะเล (Cerbera odollam)
พรรณไม้ใบเดี่ยวที่มีสีเขียวเข้มและมีลักษณะเป็นกระจุกแน่นอยู่ที่ปลายกิ่ง มีรูปร่างเหมือนไข่กลับ มีดอกสีขาวแต้มด้วยสีเหลืองที่ตรงกลางของช่อ โดยจะมีจำนวนกลีบดอกอยู่ 5 กลีบ และมีกลิ่นหอมหวานเล็กน้อยปนอยู่ด้วย ส่วนผลพรรณไม้นี้จะมีลักษณะทรงกลม มีสีเขียวเมื่อผลอ่อนและจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อผลสุกแก่ เมื่อนำไปใช้งานจำเป็นต้องระวังน้ำยางที่ออกมาจากต้นพรรณไม้ เนื่องจากมีสีขาวที่เป็นพิษทุกส่วนของต้นพรรณไม้นี้อยู่ด้วย
ต้นตีนเป็ดทราย (Cerbera Manghas)
ต้นตีนเป็ดทรายจะมีลักษณะที่คล้ายกับต้นตีนเป็นน้ำ โดยจะมีใบเดี่ยวสีเขียวเข้ม และออกเป็นกระจุกแน่นที่ปลายกิ่ง มีรูปร่างคล้ายไข่กลับ และมีดอกสีขาว ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง โดยจะมีจำนวนกลีบดอกอยู่ 5 กลีบ และมีกลิ่นหอมหวานเล็กน้อยปนอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม ส่วนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนของต้นตีนเป็ดทรายก็คือ ดอกของต้นนี้จะมีแต้มสีแดงชมพูตรงกลาง ส่วนผลพรรณไม้ของต้นนี้จะมีลักษณะทรงกลม และมีสีเขียวเมื่อผลอ่อน แต่เมื่อผลสุกแก่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง นอกจากนี้ต้นตีนเป็ดทรายยังมีน้ำยางสีขาวที่เป็นพิษอยู่ทุกส่วนของต้น โดยส่วนใหญ่ผู้คนจะนำผลพรรณไม้แห้งไปใช้เพื่อขัดล้างและทำความสะอาด และบางคนยังนำไปปลูกต้นไม้ด้วย
ตีนเป็ดแดง (Dyera costulata)
พรรณไม้ใบเดี่ยวที่มีสีเขียว แต่จะมีขอบใบเป็นสีม่วงแดง รวมถึงเส้นใบและก้านใบก็จะมีสีม่วงแดงปนอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีโคนใบแหลมและยอดอ่อนที่มีสีม่วงแดงสดใส่ตา ดอกจะออกเป็นช่อแบบซี่ร่มที่ปลายกิ่ง โดยจะมีจำนวนกลีบดอกอยู่ 5 กลีบ และเรียงตัวออกมาเป็นรูปกงล้อ บริเวณด้านนอกและกึ่งกลางของกลีบดอกจะมีสีขาวถึงม่วงแดงปนอยู่ด้วย โดยกลิ่นของดอกพรรณไม้ชนิดนี้จะมีกลิ่นหอมหวานๆออกมาตลอดปี ส่วนผลของพรรณไม้ชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นฝักคู่โค้งกางออก และมีเมล็ดภายในมีปีกบาง ๆ นิยมนำมาปลูกในสวนประดับต่าง ๆ
ตีนเป็ดฝรั่ง (Crescentia alata)
พรรณไม้ที่มีใบ 3 ใบย่อย มักออกตามกิ่งหรือลำต้น ปลายมน โคนเรียวแหลม ขอบเรียบ ก้านใบมีปีกทั้งสองข้าง ดอกเดี่ยวรูปแตรป่องตรงกลางออกตามลำต้นและกิ่งแก่ สีเขียวอมม่วงและน้ำตาลแดง ดอกบานตอนกลางคืน กลิ่นเหม็นหืน ผลรูปรี สีเขียว ออกตามกิ่ง