ทิศทางลม เรื่องควรรู้ก่อนการซื้อบ้าน

ทิศทางลม

เมื่อคุณกำลังมองหาบ้านใหม่หรือวางแผนสร้างบ้านบนที่ดินของตนเอง หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาคือ ทิศทางลม การวางผังบ้านให้สอดคล้องกับทิศทางลมจะช่วยให้บ้านมีสภาพแวดล้อมที่สบายและประหยัดพลังงานมากขึ้น

ทิศทางลม เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการระบายอากาศและการไหลเวียนของอากาศภายในบ้าน หากบ้านได้รับการออกแบบให้รับลมธรรมชาติอย่างเหมาะสม จะช่วยลดความร้อนและความชื้นภายในบ้าน ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้เครื่องปรับอากาศหรือพัดลมลงได้อย่างมาก

ทิศทางลมคืออะไร

ทิศทางลม หมายถึงกระแสอากาศที่เคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ต่าง ๆ ในแนวทางที่แตกต่างกัน การวางผังบ้านให้สอดคล้องกับทิศทางลมจะช่วยให้บ้านได้รับการระบายอากาศที่ดี ป้องกันความร้อนสะสมภายในบ้าน และช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ซึ่งจะส่งผลให้บรรยากาศภายในบ้านมีความสดชื่น และเอื้อต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ ยังช่วยลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ และช่วยประหยัดพลังงานในการใช้งานเครื่องปรับอากาศอีกด้วย

ในการออกแบบบ้าน สถาปนิกและวิศวกรจะต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางลมในบริเวณนั้นอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศและสภาพอากาศ โดยอาจจะต้องวางตำแหน่งหน้าต่าง ประตู และระเบียงให้สอดคล้องกับทิศทางลมที่พัดผ่าน เพื่อให้บ้านได้รับการระบายอากาศที่ดีที่สุด บ้านทรงปั้นหยาเป็นบ้านที่มีความเป็นเอกลักษณ์และมีความงดงาม เรียบง่ายแต่ยังคงความสง่างามอยู่ในแบบของมัน เพื่อให้ บ้านทรงปั้นหยา ดูมีเสน่ห์มีชีวิตชีวา คุณสามารถใช้วัสดุที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ดินเผา หรือลอยกระท่อม มาสร้างบ้านให้สวยงามตามสไตล์ที่คุณต้องการ

ทิศทางลม

ข้อควรรู้เกี่ยวกับทิศทางลมสำหรับการปลูกบ้าน

การเลือกทำเลที่ตั้งและการวางผังบ้านให้เหมาะสมกับ ทิศทางลม แดด และฝน เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อน มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าวตลอดทั้งปี แบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาลหลัก ได้แก่

1. ฤดูร้อน ซึ่งอุณหภูมิจะสูงถึง 35-39.9 องศาเซลเซียส และบางครั้งอากาศร้อนจัดเกิน 40 องศาเซลเซียส โดยช่วงนี้จะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม การวางผังบ้านให้รับแสงแดดและลมธรรมชาติได้อย่างเหมาะสมจะช่วยระบายความร้อนและให้อากาศถ่ายเทได้ดี

2. ฤดูฝน ซึ่งเกิดจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศ ประกอบกับร่องความกดอากาศต่ำ ทำให้มีฝนตกชุกทั่วประเทศ ปริมาณน้ำฝนที่วัดได้จะอยู่ในช่วง 1-90 มิลลิเมตร หรือมากกว่า ช่วงนี้จะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายน การวางผังบ้านให้สามารถระบายน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยป้องกันน้ำท่วมขัง

3. ฤดูหนาว ซึ่งอุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่ 0-15.9 องศาเซลเซียส หรืออาจเย็นกว่านั้น ช่วงแรกของฤดูหนาวจะมีสภาพอากาศที่แปรปรวนสูงและมีฝนตกประปราย ช่วงนี้จะเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ การวางผังบ้านให้สามารถกักเก็บความอบอุ่นได้อย่างเหมาะสมจะช่วยให้บ้านอบอุ่นสบายในฤดูหนาว

เช็คทิศทางรับลมเข้าบ้าน อยู่สบายตามศาสตร์หลักฮวงจุ้ย

การออกแบบบ้านตามหลักการของ ฮวงจุ้ย เพื่อรับลมเข้าอย่างเหมาะสม เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากตามความเชื่อของสารทจีนกระแสลมถือเป็นพลังงานชีวิตที่จะส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของผู้อยู่อาศัย ฮวงจุ้ยมีความหมายตรงตัวว่า ฮวง คือลม และ จุ้ย คือน้ำ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของธาตุทั้งสองประการนี้ อากาศที่ไหลเวียนสะดวก ช่วยให้พลังงานหมุนเวียนอย่างราบรื่น ส่งผลดีต่อชีวิตและการงานของคนในบ้าน การวางแผนและทิศทางของบ้านมีผลต่อการรับลมโดยตรง บ้านที่หันหน้าไปทางทิศเหนือหรือทิศใต้จะได้รับกระแสลมประจำฤดูของประเทศไทยอย่างเต็มที่ ช่วยให้ลมพัดผ่านบ้านได้อย่างสะดวกสบาย ไม่อับชื้นหรืออึดอัด

อีกทั้ง การวางผังบ้านและจัดวางสิ่งของต่าง ๆ ภายในบ้านให้เหมาะสม ไม่กีดขวางการไหลของลม ก็จะช่วยส่งเสริมการหมุนเวียนของลมได้เป็นอย่างดี ทำให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทสะดวก อยู่อาศัยอย่างสบายใจ นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าบ้านที่มีลมพัดผ่านได้สะดวกจะดึงดูดพลังงานบวก เรียกโชคลาภ ความร่ำรวย และสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต ธุรกิจการค้าก็จะเจริญรุ่งเรือง เนื่องจากการหมุนเวียนของกระแสลมที่ดี ดังนั้น การออกแบบบ้านให้สอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ย โดยคำนึงถึงทิศทางลม จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้คนให้ความสนใจ เพื่อนำพาไปสู่ชีวิตที่สบาย เย็นสบาย และประสบความสำเร็จตามที่ปรารถนา

บ้านหันหน้าทิศเหนือ สร้างชีวิตที่ราบรื่น ไหลลื่นไม่ติดขัด

ตามหลักการทาง ฮวงจุ้ย การออกแบบบ้านให้หันหน้าไปทางทิศเหนือนั้นถือเป็นทิศทางที่ดี เนื่องจากจะช่วยให้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยราบรื่น ไหลลื่น ไม่ติดขัด โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคมถึงมกราคม ซึ่งเป็นช่วงลมหนาวพัดผ่านจากทิศเหนือ ลมเย็นสบายจะได้พัดเข้าสู่บ้านอย่างสะดวกสบาย หากบ้านมีภูเขาเป็นฉากหลังด้วยแล้ว ก็จะช่วยเพิ่มความเร็วของลมได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อพ้นช่วงลมหนาวไปแล้ว บ้านที่หันหน้าทางทิศเหนืออาจจะดูอบอ้าวและไม่ได้รับลมพัดผ่านมากนัก ดังนั้น จึงควรมีการออกแบบเสริมทิศทางลม เช่น วางประตูทางเข้าบ้านไว้ทางทิศเหนือ และติดตั้งหน้าต่างบานผลักเพื่อให้ลมสามารถพัดผ่านเข้าบ้านได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งจะช่วยให้บ้านเย็นสบายตลอดทั้งปี  

นอกจากนี้ การออกแบบบ้านให้มีพื้นที่โล่งโปร่งสำหรับให้ลมหมุนเวียนได้สะดวกก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเสริมสร้างความราบรื่นให้แก่ชีวิตของผู้อยู่อาศัย ตามแนวทางของฮวงจุ้ย การไหลเวียนของลมที่ดีจะนำพาสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต ขจัดสิ่งไม่ดีออกไป ส่งผลให้ชีวิตไหลลื่น ประสบความสำเร็จ และมีความสุขความเจริญก้าวหน้า การใช้ อิฐมอญ ในการก่อสร้างเป็นวิธีที่มีความทนทานและคงทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี อิฐมอญมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้บ้านดูมีความเป็นมาและสวยงาม นอกจากนี้ ยังช่วยในการรักษาความเย็นในบ้านในช่วงฤดูร้อนและรักษาความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาวได้ดี

บ้านหันทิศใต้ อยู่เย็น เป็นสุข

การเลือก ทิศทางของบ้าน ให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสบายและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย โดยบ้านที่หันหน้าไปทางทิศทางใต้นั้นมีข้อได้เปรียบมากมาย สาเหตุหลักที่บ้านทิศใต้เป็นทางเลือกที่ดีอันดับต้น ๆ ก็คือทิศทางลม ในประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น ลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้จะพัดเข้ามาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงกันยายน หรือเกือบตลอดทั้งปี ดังนั้น การหันหน้าบ้านออกไปทางทิศใต้จึงเท่ากับการเปิดรับลมเย็นจากทะเลตลอดเวลา ทำให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น

อีกประโยชน์หนึ่งของการหันบ้านทิศใต้คือการลดแสงแดดจ้าจากทางฝั่งตะวันออกและตะวันตก ซึ่งจะส่งผลให้อุณหภูมิภายในบ้านไม่สูงจนเกินไป เนื่องจากแสงจะตกกระทบที่ด้านหน้าและด้านหลังบ้านเท่านั้น หากบ้านมีพื้นที่ด้านหน้าเพียงพอ ก็สามารถสร้างบ่อเลี้ยงปลาเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศได้อีกด้วย

นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงปลูกต้นไม้ใหญ่บริเวณด้านหน้าบ้าน ยังช่วยให้ลมพัดผ่านได้อย่างสะดวกและเต็มที่ รักษาอุณหภูมิภายในบ้านให้เย็นสบายตลอดปี การวางผังบ้านอย่างเหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัย

ข้อดี-ข้อเสียของทิศทางลมที่ส่งผลต่อตัวบ้าน

ข้อดี-ข้อเสียของทิศทางลมที่ส่งผลต่อตัวบ้าน

1. ข้อดีของบ้านที่ตั้งรับทิศทางลมได้ถูกต้อง

  • ประหยัดพลังงาน : เมื่อบ้านมีการถ่ายเทอากาศได้สะดวก จะช่วยลดความร้อนภายในบ้าน ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศมากนัก ส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า
  • เพิ่มอายุการใช้งานของบ้าน : การที่บ้านไม่ได้รับแรงกระแทกโดยตรงจากสภาพอากาศต่าง ๆ เช่น แดด ลม และฝน จะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของวัสดุก่อสร้าง ทำให้บ้านมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
  • การจัดพื้นที่ใช้สอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ : เมื่อทราบทิศทางลมที่พัดผ่าน เราสามารถวางผังบ้านและจัดสรรพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการรับลม เช่น วางห้องนั่งเล่นไปทางทิศทางลม เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ในขณะที่วางห้องนอนไปในทิศทางที่ได้รับแสงแดดน้อยกว่า เป็นต้น

2. ข้อเสียของบ้านที่ตั้งรับทิศทางลมไม่ถูกต้อง

  • เสี่ยงต่อความเสียหายจากพายุฝนและลมแรง : หากบ้านตั้งอยู่ในทิศทางที่รับลมมรสุมหรือลมแรงโดยตรง เมื่อเกิดพายุฝนลมกระหน่ำ บ้านจะได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวบ้านและสิ่งปลูกสร้างได้ง่าย
  • สูญเสียความเป็นส่วนตัว : หากห้องนอนหรือพื้นที่ส่วนตัวอื่น ๆ ตั้งอยู่ในทิศทางรับลมโดยตรง อาจทำให้ขาดความเป็นส่วนตัวและเกิดเสียงรบกวนได้
  • ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสูง : เนื่องจากอากาศไม่สามารถถ่ายเทได้สะดวก จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสม ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสูงขึ้น
ทิศทางลม

สรุป

การคำนึงถึง ทิศทางลม ในการวางผังบ้านเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้บ้านของคุณมีบรรยากาศที่สบายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในระยะยาว ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อหรือสร้างบ้าน การพิจารณาทิศทางลมจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments

บทความใกล้เคียง

ติดต่อเรา