บ้านเป็นที่อยู่อาศัยที่สำคัญสำหรับทุกคน การสร้างบ้านใหม่จึงเป็นเหตุการณ์พิเศษที่ต้องเตรียมการอย่างดี นอกเหนือจากการออกแบบและก่อสร้างแล้ว การเลือกฤกษ์ยามที่เหมาะสมในการทำพิธีลงเสาเอกบ้านก็เป็นเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ตามความเชื่อของคนไทยโบราณ การยกเสาเอกบ้านในฤกษ์ยามดีจะช่วยเสริมสิริมงคลให้แก่บ้าน ทำให้ครอบครัวที่อาศัยอยู่มีแต่ความสุขความเจริญ วันนี้เราจึงขอนำเสนอฤกษ์ยกเสาเอกบ้านที่เหมาะสม เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่กำลังสร้างบ้านใหม่ได้เลือกฤกษ์ยามที่เหมาะสมสำหรับพิธีลงเสาเอกอันศักดิ์สิทธิ์นี้
ทำความรู้จัก เสาเอกบ้านคืออะไร?
เสาเอกเป็นเสาหลักที่ช่วยรับน้ำหนักบ้าน ไม่ใช่เสาที่ตอกฝังลงไปในดิน แต่มีความสำคัญในฐานะเสาต้นแรกของบ้าน สื่อถึงจุดเริ่มต้นของครอบครัว หากเริ่มต้นการจัดโต๊ะหมู่บูชาได้ดีก็จะนำพาแต่สิ่งดี ๆ ตามมา ในอดีตเสาเอกมักทำจากไม้ แต่ปัจจุบันการสร้างบ้านเปลี่ยนรูปแบบไป จึงทำให้เสาเอกเป็นเสาเหล็ก ปูน หรือคอนกรีตแทน
โดยทำเป็นโครงสร้างเสาไว้ก่อนเทปูน นอกจากนี้ พิธีลงฤกษ์ยกเสาเอกบ้าน มกราคม 2567 ยังมีนัยสำคัญถึงความมั่นคง เพราะเสาเอกเป็นการแทนสัญลักษณ์ของผู้ชายที่มีความเป็นผู้นำ เปรียบเสมือนบิดาผู้เป็นหลักของครอบครัว ทำหน้าที่ปกป้องดูแลสมาชิกให้อยู่เย็นเป็นสุขนั่นเอง
พิธีลงเสาเอกกับการเตรียมตัวเพื่อเป็นสิริมงคล
1. เลือกฤกษ์มงคลในการตั้งเสาเอก
เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่มีผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของบ้าน สำหรับขั้นตอนแรก ควรหาวันมงคลให้เรียบร้อยโดยการพิจารณาฤกษ์มงคลที่เจ้าของบ้านนั้นมั่นใจและมีความเชื่อมั่น อาจใช้ปฏิทินจันทรคตินับแบบไทยเป็นหลักแล้วคัดเลือกวันอธิบดีหรือวันธงชัยของแต่ละเดือน หรือขอความช่วยเหลือจากพระหรือหมอดูในการตัดสินใจเพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสม ฤกษ์งามมักจะเกิดขึ้นในเดือนแรก สอง สี่ หก เก้า และสิบสอง ตามระบบนับเดือนไทยหรือจันทรคติ การเลือกวันที่จะตั้งเสาเอกมักให้ความสำคัญกับวันอธิบดีหรือวันธงชัยของแต่ละเดือน โดยทั่วไปจะเลือกวันจันทร์เป็นวันที่เหมาะสมที่สุด และควรหลีกเลี่ยงการตั้งเสาเอกในวันอาทิตย์ ส่วนทิศที่เหมาะสมที่สุดคือทิศตะวันตกเฉียงใต้ อีกทั้งฤกษ์มงคลของแต่ละวันยังมีความสำคัญอย่างมาก เชื่อว่าฤกษ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันจะมีผลต่อชีวิตและความรุ่งเรืองของบ้านด้วยกัน ดังนี้
- การเลือกวันอาทิตย์เพื่อปลูกเรือนจะนับเป็นการเลือกฤกษ์ของเสียงไก่
- การเลือกวันจันทร์เพื่อปลูกเรือนจะนับเป็นการเลือกฤกษ์ของเสียงผู้หญิง
- การเลือกวันอังคารเพื่อปลูกเรือนจะนับเป็นการเลือกฤกษ์ของเสียงม้า
- การเลือกวันพุธเพื่อปลูกเรือนจะนับเป็นการเลือกฤกษ์ของเสียงสังข์
- การเลือกวันพฤหัสบดีเพื่อปลูกเรือนจะนับเป็นการเลือกฤกษ์ของเสียงถาด
- การเลือกวันศุกร์เพื่อปลูกเรือนจะนับเป็นการเลือกฤกษ์ของเสียงฆ้อง
- การเลือกวันเสาร์เพื่อปลูกเรือนจะนับเป็นการเลือกฤกษ์ของเสียงคนแก่
2. เลือกเวลาที่ดีในการตั้งเสาเอก
นอกเหนือจากการคำนึงถึงวันมงคล การเลือกเวลาก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาให้ดี เพราะโดยส่วนใหญ่คนไทยมักจะมองเลข 9 เป็นเลขมงคล เนื่องจากมีความหมายที่ดีและเชื่อว่าเป็นเลขที่สร้างโชคลาภ เช่นเดียวกับคำว่า “ก้าว” ซึ่งมักเป็นคำที่มีความหมายเชิงบวกอย่างก้าวไปข้างหน้า หรือก้าวไกล ดังนั้น การเลือกเวลามีความหมายที่สำคัญเช่นกัน
เวลามงคลที่นิยมใช้กันมากคือ 9.09 น. และสามารถเลือกดูฤกษ์ดูชัยเพื่อหาเวลาที่เหมาะสมกับดวงของเจ้าของบ้านได้ด้วย การคำนึงถึงเวลามงคลนี้จะช่วยให้การตั้งเสาเอกหรือกิจกรรมต่าง ๆ มีความเหมาะสมและสมบูรณ์ตามธรรมชาติและศาสตร์ฮวงจุ้ยอีกเช่นกัน
3. ของมงคลใช้ในพิธีลงเสาเอกบ้าน
สำหรับพิธีลงเสาเอกในประเพณีไทยประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่างที่มีความหมายทางศาสนาและวัฒนธรรมด้วยกัน เช่น โต๊ะหมู่บูชาที่จัดเตรียมอย่างเหมาะสม ตกแต่งด้วยเครื่องสักการะต่าง ๆ รวมถึงชุดจตุปัจจัยไทยสำหรับถวายพระ สายสิญจน์ ผ้าสามสี ผ้าหัวเสา และผ้าห่มเสา
นอกจากนี้ยังมีแผ่นนาก แผ่นเงิน และแผ่นทอง โดยการเตรียมข้าวตอกดอกไม้ ทองคำเปลว และเหรียญทอง 9 เหรียญ เหรียญเงิน 9 เหรียญ เพื่อแสดงถึงความมั่นคงและความรุ่งเรืองในชีวิต ทั้งยังมีการเตรียมน้ำมนต์ 1 ขันและหญ้าคา 1 กำเพื่อใช้ในพิธีลงเสาเอก
4. ไม้มงคล 9 อย่าง
การใช้ไม้มงคล 9 อย่างสำหรับพิธีลงเสาเอกเป็นอีกหนึ่งความเชื่อว่าการเลือกใช้ไม้มงคลถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากไม้แต่ละชนิดมีความหมาย และสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่าความหมายต้นไม้ดี ๆ จะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลของการอยู่อาศัยและการเริ่มต้นใหม่ ได้แก่
- ไม้ราชพฤกษ์ เราจะได้รับความเข้มแข็งของอำนาจและความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ขึ้น เพิ่มเติมถึงการมีวาสนาดีตามมา
- ไม้ขนุนจะนำเอาความเกื้อหนุนและความสำเร็จให้กับผู้ที่ใช้ สร้างสถานการณ์ที่สามารถเจริญเติบโตได้
- ไม้ชัยพฤกษ์จะเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะและความสำเร็จในทุกด้านของชีวิต
- ไม้ทองหลางเป็นที่รู้จักในการเสริมความร่ำรวยและเงินทองให้กับบ้านและครอบครัว
- ไม้ไผ่สีสุกนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความร่มเย็นและความสุข ทำให้ทุกคนในบ้านรู้สึกสบายใจและมีความสุข
- ไม้ทรงบาดาลมีความแข็งแรงและคงที่ เหมาะสำหรับการพัฒนาและเติบโตของครอบครัว
- ไม้สักจะเป็นสัญลักษณ์ของศักดิ์ศรีและเกียรติยศที่ควรถือเป็นสิ่งสำคัญ
- ไม้พะยูงจะช่วยให้ทุกคนในบ้านมีฐานะและสถานภาพที่ดีในสังคม
- ไม้กันเกราเป็นสิ่งที่ช่วยกันป้องกันปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในบ้าน เพื่อสร้างความมั่นคงและเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของเรา
ดังนั้นการใช้ไม้มงคลทั้ง 9 ชนิดนี้ในพิธีลงฤกษ์ยกเสาเอกบ้านเป็นสิ่งที่จำเป็นและควรทำอย่างเคร่งครัด แต่ละชนิดของไม้มีความสำคัญและเสนอความดีแก่บ้านและครอบครัวในมุมมองและด้านต่าง ๆ อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ควรปล่อยให้ขาดเหลือเพราะจะส่งผลให้สิริมงคลและความดีๆ ในบ้านลดลงได้
5. ใบไม้มงคลสำหรับพิธีลงเสาเอก
ใบไม้ที่มักจะนำมาใช้ประกอบพิธีลงฤกษ์ยกเสาเอกบ้าน 2567 จะเลือกใช้เฉพาะใบไม้ที่มีความหมายดี ๆ เหมือนกับไม้มงคล 9 ชนิด ตามนิยมเช่น
- ใบทอง ใบเงิน และใบนาก ซึ่งเชื่อว่าช่วยเสริมทรัพย์สินและเงินทอง
- ใบทับทิม ที่ช่วยขจัดความทุกข์ทั้งหลาย
- ใบพลู เพื่อเสริมยศและความเป็นสิริมงคล
- ใบมะรุม ที่เสริมเสน่ห์และความน่าจะเป็นในสิ่งต่าง ๆ
- ใบมะขาม ที่ช่วยเสริมความน่าเกรงขาม
- ใบยอ ที่เพิ่มขึ้นความเป็นที่รักของคนทั้งหลาย
- ใบมะยม ที่ช่วยเสริมความนิยมในความรักและความสุข
- ใบโกสน ที่ช่วยเสริมการทำบุญกุศลและบารมีให้มีค่า
- ใบวาสนา ที่ช่วยเสริมความเชื่อในศรัทธาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
- ใบโมก ที่ช่วยให้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
- ใบชวนชม ที่ช่วยเสริมความร่ำรวยและคุ้มค่า
ขั้นตอนพิธีการลงเสาเอกบ้าน
- การเตรียมพร้อมสำหรับพิธีนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยจะต้องเตรียมหน่อกล้วย หน่ออ้อย และผ้าสามสีให้พร้อมที่จะผูกติดกับเสาเหล็กที่จะเป็นเสาเอกของบ้านไว้ในวันพิธี
- หากไม่สามารถเชิญพราหมณ์หรือพระอาจารย์มาช่วยในการทำพิธีได้ สามารถเชิญผู้หลักผู้ใหญ่หรือเจ้าของบ้านมาเป็นผู้ทำพิธีได้ โดยจะเริ่มต้นด้วยการวางสายสิญจน์ตั้งแต่บริเวณโต๊ะหมู่บูชาและยาวไปจนถึงเสาเอก
- เจ้าภาพของพิธีจะลงเสาเอกจุดธูปเทียนที่โต๊ะหมู่บูชา และอธิษฐานถึงความเป็นสิริมงคล พร้อมทั้งกราบพระที่โต๊ะหมู่บูชาและโต๊ะเครื่องสังเวยเทวดาขอให้คุ้มครอง
- จากนั้นให้นำดอกไม้มงคล 9 ชนิดไปในหลุมเสาเอกตามลำดับ
- วางแผ่นนาก แผ่นเงิน แผ่นทอง และเหรียญเงินลงไปในหลุมเสาเอก
- ทำนิมนต์พระสงฆ์มาพรมน้ำมนต์ และโปรยทรายเสกลงที่หลุมเสาเอก จากนั้นเจิมและปิดแผ่นทองที่เสาเอก
- เจ้าภาพและผู้ร่วมพิธีจะร่วมกันถือสายสิญจน์และยกเสาเอกให้เรียบร้อย
- เจ้าภาพจะโปรยข้าวตอกดอกไม้ ต้นไม้มงคล และแป้งหอมลงที่หลุมเสาเอกเพื่อจบพิธี ด้วยความสมหวังว่าพิธีนี้จะมีความเป็นสิริมงคลและคุ้มครองบ้านบ้างให้แก่ทุกคนที่อยู่ในบ้านนี้ ขอให้พิธีดำเนินไปอย่างเรียบร้อยและปลอดภัยทั้งหมด
สรุป
สำหรับพิธีฤกษ์ยกเสาเอกบ้านนั้นเป็นพิธีที่จัดทำขึ้นตามความเชื่อ และความสบายใจของผู้อยู่อาศัย เป็นการเริ่มต้นที่เต็มไปด้วยความหมายเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ให้การอยู่อาศัยนั้นมีความร่มเย็นเป็นสุข หากมีฤกษ์ยกเสาเอกที่ดี และทำพิธีด้วยเจตนาที่ดีก็จะนำความสุขความเจริญมาให้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องดี ๆ ด้วยกันทั้งสิ้น