กากกาแฟ คือส่วนของเมล็ดกาแฟที่เหลือจากการคั่ว บด และกลั่นเป็นน้ำกาแฟที่เราชื่นชอบกันอย่างแพร่หลาย แต่ไม่ใช่ทุกคนรู้ว่าเศษเหล่านี้ก็มีคุณค่าและประโยชน์มากมายอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ การทิ้งกากกาแฟหมักไปโดยไม่ใช้จึงเป็นเรื่องเสียดายอย่างยิ่ง กากกาแฟสามารถนำมาใช้ในหลาย ๆ วิธีได้ เช่น นำมาใช้เป็นปุ๋ยสำหรับต้นไม้หรือผักที่เราปลูกในสวน เพราะกากกาแฟเป็นแหล่งของไนโตรเจนและโพแทสเซียมที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชได้อย่างดี นอกจากนี้ เรายังสามารถนำกากกาแฟมาใช้เป็นสารป้องกันแมลงได้อีกด้วย เพราะกาแฟมีสารที่มีคุณสมบัติเป็นสารไล่แมลง ทำให้กากกาแฟเหล่านี้มีประโยชน์สูงสุดในการป้องกันแมลงในสวนผักและผลไม้ได้
นอกจากนี้ กากกาแฟยังเป็นวัตถุดิบที่น่าสนใจสำหรับการใช้ในงานฝีมือ หรืองานศิลปะด้วย เช่น เราสามารถนำกากกาแฟมาผสมเป็นเบสสำหรับงานหัตถกรรม หรือใช้เป็นสีสำหรับงานวาดภาพได้ เพราะกากกาแฟมีสีเข้มและยังมีคุณค่าทางการแพทย์อีกด้วย เนื่องจากกากกาแฟมีสารสกัดที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย และช่วยลดอาการปวดเมื่อย นอกจากนี้ยังมีการวิจัยใหม่ ๆ ที่พบว่าสารสกัดจากกาแฟในกากกาแฟ อาจช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวาน หรือโรคมะเร็งได้ด้วย
กากกาแฟไม่ใช่สิ่งที่ควรถูกทิ้งไปโดยไม่นำมาใช้เลย ถึงแม้ว่าจะเป็นส่วนของเมล็ดกาแฟที่ไม่มีความหมายหลังจากนำมาบดและกลั่นเป็นน้ำกาแฟ แต่กากกาแฟเทียนหอมเหล่านี้ก็มีคุณค่าและประโยชน์อยู่มากมายที่เราอาจไม่คาดคิดถึงได้
กากกาแฟ ที่เหลือจากการชงกาแฟ มีประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้
กากกาแฟประโยชน์ด้านการเกษตร
1. การบำรุงดินให้อุดมสมบูรณ์
เมื่อต้องการปลูกต้นไม้ให้สวยงามในสวนบ้าน การบำรุงดินให้อุดมสมบูรณ์จะเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องทำก่อน โดยใช้กากกาแฟผสมกับดินจะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน เพิ่มแร่ธาตุอย่างโพแทสเซียม ไนโตรเจน และฟอสฟอรัส ทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดี โดยไม่ต้องใช้เงินซื้อปุ๋ยหรือสารเคมีอื่น ๆ
2. วิธีไล่แมลงหรือศัตรูพืชจากพืชผัก
หากปลูกพืชผักในสวนครัวแล้วไม่อยากให้แมลงหรือศัตรูพืชมากัดกินใบพืชผัก ทำให้ไม่สวยงามและเสียหาย สามารถใช้กากกาแฟโรยรอบกระถางหรือทางเดินของแมลง เพื่อป้องกันได้ หรือนำกากกาแฟไปตากแดด แล้วบดเป็นผงผสมกับน้ำ ฉีดพ่นพืชผักด้วยสารคาเฟอีนและดิเทอร์พีนส์ เพื่อช่วยไล่ไม่ให้แมลงหรือศัตรูพืชกัดกินทำลายพืชผักได้
3. วิธีบำรุงเห็ดให้เติบโตสวยงาม
การปลูกเห็ดไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะดินปกติ หากต้องการให้เห็ดมีใบใหญ่สวยงาม สามารถนำสปอร์เห็ดที่ต้องการมาฝังไว้ในกากกาแฟ เพื่อช่วยให้เห็ดเติบโตได้ดี ก่อนนำสปอร์เห็ดมาฝัง ให้นำกากกาแฟมาพรมน้ำให้ชุ่มชื้นก่อน แล้วฝังสปอร์เห็ดในกากกาแฟ และทำรูเล็ก ๆ รอบ ๆ แล้วฉีดน้ำพ่นบนกากกาแฟ ประมาณ 2-4 สัปดาห์ เห็ดก็จะเริ่มเจริญเติบโตสวยงามได้
4. วิธีเรียกหนอนไส้เดือนมาช่วยพรวนดิน
การเรียกหนอนไส้เดือนมาช่วยพรวนดินจะช่วยทำให้ดินมีสภาพสมบูรณ์มากขึ้น โดยการพรวนดินจะทำให้ดินมีความร่วนซุย รากพืชชอนไชได้ง่าย และดินสามารถดูดซึมน้ำได้ดี นอกจากนี้หนอนไส้เดือนยังช่วยกำจัดวัชพืชที่อาจเติบโตขึ้นมาได้ด้วย หากต้องการเรียกหนอนไส้เดือนมาช่วยพรวนดิน สามารถนำกากกาแฟมาใส่บริเวณดินที่ปลูกต้นไม้ ซึ่งกากกาแฟจะช่วยเรียกหนอนไส้เดือนได้โดยเร็ว
กากกาแฟประโยชน์ด้านห้องครัว
1. หมักเนื้อให้นุ่มลง
เนื้อหมูหรือเนื้อวัว ถ้าต้องการทำเป็นสเต็กหรือปิ้งย่างและอยากให้อร่อยมากขึ้น ควรหมักเนื้อให้นุ่มลงก่อน ซึ่งสิ่งที่คนทั่วไปใช้เพื่อหมักเนื้อนั้นคือเบกกิ้งโซดา แต่วิธีอื่นที่ช่วยหมักเนื้อให้นุ่มลงได้คือการใช้กากกาแฟ โดยกากกาแฟมีกรดและเอนไซม์ที่ช่วยให้เนื้อนุ่มลง วิธีการใช้งานคือ นำกากกาแฟโรยลงบนเนื้อแล้วหมักไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง หรือนำกากกาแฟไปชงผ่านน้ำร้อนแล้วนำเนื้อมาแช่ในน้ำจากกากกาแฟแล้วหมักข้ามคืนก็ได้เช่นกัน
2. ดับกลิ่นกระเทียมที่ติดมือ
กระเทียมเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการทำอาหาร แต่กลิ่นของมันทำให้มือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ หากล้างมือด้วยสบู่แล้วก็ยังมีกลิ่น แนะนำให้ใช้กากกาแฟสกัดกลิ่นกระเทียมออกจากมือ โดยใช้กากกาแฟที่เหลือจากการชงแล้วทำให้กากกาแฟมีสารสกัดช่วยดับกลิ่นได้ จึงนำมาใช้สกัดกลิ่นกระเทียมออกจากมือ โดยนำกากกาแฟวางไว้ที่มือแล้วนวดและล้างออกด้วยน้ำสะอาด
3. ขัดคราบไหม้ที่ติดกระทะออกได้
หากต้องการรักษากระทะให้ดูเหมือนใหม่เสมือนเมื่อแรกๆ และไม่อยากให้มีคราบไหม้ติดอยู่ที่ก้นกระทะ ให้ใช้กากกาแฟทำการขัดได้แทนการใช้ฝอยขัดหม้อ โดยใช้กากกาแฟยัดใส่ในถุงเศษผ้าเก่า แล้วนำมาขัดบริเวณที่มีคราบไหม้ เพียงเท่านี้ คราบไหม้ที่ติดฝังอยู่บนกระทะก็จะหลุดล่อนออกไป และจะทำให้คุณมีความรู้สึกเหมือนเป็นกระทะใหม่อีกครั้ง
4. ดับกลิ่นอับในตู้เย็น
ตู้เย็นเป็นที่เก็บรวมวัตถุดิบสำหรับการทำอาหารและเครื่องดื่ม อาจเก็บอาหารค้างคืนหรือบางบ้านก็เก็บเครื่องสำอางไว้ หากไม่อยากให้กลิ่นตีกันตลบอบอวล ให้นำกากกาแฟวางไว้ในตู้เย็น ก็จะช่วยดับกลิ่นเหม็นในตู้เย็นได้ และจะทำให้สิ่งอื่นที่เก็บอยู่ในตู้เย็นไม่มีกลิ่นผสมกัน
5. ไล่มดขึ้นในครัวได้
มดเป็นปัญหาที่ต้องเจอในบ้านบ้าง โดยเฉพาะในครัวที่มีวัตถุดิบ เครื่องปรุง หรืออาหารเอาไว้ หากไม่อยากให้มดขึ้นมาแดกวัตถุดิบหรืออาหารที่เราเตรียมไว้ ให้นำกากกาแฟมาใช้ไล่มดได้เป็นอย่างดี โดยนำกากกาแฟทาบริเวณขาตู้หรือตรงทางเดินกองทัพมด ก็จะช่วยไล่และป้องกันไม่ให้มดขึ้นมากัดกินวัตถุดิบหรืออาหารที่เราเตรียมไว้ในครัวได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่ใช้สารเคมีที่อันตรายสำหรับคนและสัตว์เลี้ยงในบ้าน
กากกาแฟประโยชน์ด้านความสวยความงาม
1.การใช้กากกาแฟเพื่อขัดผิวให้เนียนนุ่ม
การใช้กากกาแฟดอกไม้สีขาวเพื่อขัดผิวได้ผลดี เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวชุ่มชื่น นุ่มเนียน และเปล่งปลั่ง สามารถใช้ได้ทั้งบนผิวหน้าและผิวกาย สำหรับผู้ที่มีสภาพผิวแห้ง แต่จะต้องระมัดระวังในการเลือกกากกาแฟ โดยควรเลือกกากที่บดละเอียด เพื่อไม่ให้กากมีความคม ซึ่งอาจทำให้ผิวแพ้ง่ายได้ ในการใช้งาน สามารถผสมกับน้ำมันมะพร้าวเพื่อบำรุงผิวหน้าและผิวกายได้ หรือนำกากกาแฟผสมกับน้ำผึ้งเพื่อบำรุงริมฝีปากได้อีกด้วย
2.การลดเซลลูไลท์ตามผิวหนังด้วยกากกาแฟ
เซลลูไลท์เป็นเซลล์ไขมันที่สะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้ผิวไม่เนียนเรียบ หรือไม่สวยงาม โดยเฉพาะบริเวณต้นขาและก้น หากไม่ต้องการให้มีเซลลูไลท์สะสมตามผิวหนัง สามารถใช้กากกาแฟผสมดินและน้ำหรือน้ำมันมะพร้าว แล้วขัดบริเวณนั้นเป็นเวลา 10 นาที สัปดาห์ละสองครั้ง จะช่วยลดการเกิดเซลลูไลท์ได้
3.การบำรุงรากผมที่เสียหายจากการทำสีผม
การทำสีผมบ่อย ๆ อาจทำให้รากผมเสียหาย ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม หากต้องการบำรุงให้เส้นผมดกดำสวยงาม ก่อนจะใช้แชมพู สามารถนวดกากกาแฟบนหนังศีรษะเล็กน้อย ประมาณ 1 นาที แล้วล้างออก จะช่วยให้เลือดบนหนังศีรษะไหลเวียนได้ดี และเพิ่มอัตราการเติบโตของเส้นผมได้ดีขึ้น
4.วิธีแก้ขอบตาดำคล้ำด้วยกากกาแฟ
ถ้าชอบนอนดึกจนมีขอบตาดำคล้ำเหมือนหมีแพนด้า กากกาแฟจะช่วยแก้ไขได้ โดยกากกาแฟมีสารออกซิเดนต์และคาเฟอีนที่ช่วยลดการเกิดขอบตาดำคล้ำ และคืนสภาพผิวตาให้เรียบเนียน นำกากกาแฟผสมน้ำเปล่าและน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อย ทาตรงขอบตา และทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ทำทุกวัน จะช่วยรักษาผิวตาให้สวยงามได้
อย่างไรก็ตามรีไซเคิลกากกาแฟ เมื่อนำมาใช้ ต้องระมัดระวังในการใช้งาน เพราะเมื่อเก็บเกี่ยวไม่เหมาะสมหรือไม่ได้รักษาอย่างถูกต้อง ก็อาจเป็นแหล่งเชื้อโรค หรือสารพิษที่อันตรายต่อสุขภาพได้