ปลูกฟักทอง ด้วยวิธีง่าย ๆ ได้ผลิตดี เก็บไว้กินตลอดปี 

ปลูกฟักทอง

การปลูกฟักทอง เป็นสิ่งที่น่าสนใจและมีประโยชน์อย่างมาก เพราะฟักทองเป็นพืชผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูงและมีธาตุอาหารหลายชนิด ซึ่งช่วยบำรุงร่างกายและสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ได้ผลผลิตฟักทองที่ดีและสามารถเก็บรักษาไว้กินตลอดปี สิ่งที่จำเป็นคือขั้นตอนการปลูก การเตรียมพื้นที่ปลูกฟักทองในกระถางและการเลือกพันธุ์ฟักทองที่เหมาะสม หากคุณเป็นมือใหม่ที่สนใจที่จะเริ่มปลูกฟักทอง มีขั้นตอนง่าย ๆ ที่จะช่วยคุณเริ่มต้นในการปลูกฟักทองได้อย่างสมบูรณ์และประสบความสำเร็จ

ปลูกฟักทอง เตรียมอะไรบ้าง 

การเตรียมแปลงปลูกฟักทองเป็นขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นการปลูกพืช โดยต้องคำนึงถึงการเตรียมพื้นที่และดินปลูกให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุด นี่คือขั้นตอนในการเตรียมพื้นที่และดิน ดังนี้

การเตรียมพื้นที่และแปลงปลูกฟักทอง

ฟักทองเป็นพืชที่มีลำต้นเลื้อยไปตามพื้นและมีหนวดเกี่ยวพันไปตามดิน ดังนั้นจำเป็นต้องมีพื้นที่ในการปลูกเพียงพอ เพื่อให้แต่ละต้นมีระยะห่างประมาณ 0.75-1.5 เมตร การคำนึงถึงความเหมาะสมของพื้นที่ปลูกเป็นสิ่งสำคัญ

  • พื้นที่ขนาดเล็ก โดยการจัดแปลงขนาด 1.5×1.5 เมตร โดยจะได้ผลผลิตต่อพื้นที่มากกว่าแบบอื่น อย่างไรก็ตามการจัดการอาจจะลำบากเนื่องจากเถาของฟักทองจะกระจายอยู่ทั่วทั้งพื้นที่
  • การปลูกแถวเดี่ยว เป็นวิธีการที่ดี โดยความกว้างของแปลงควรอยู่ที่ประมาณ 1.8-2 เมตร และให้ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 1.5 เมตร จะทำให้เราสามารถจัดการเถาฟักทองให้เลื้อยไปตามแนวแปลงได้ง่ายและมีความสะดวกสบายมากขึ้น
  • การปลูกแถวคู่และการยกร่องแปลงเป็น 2 ด้าน ความกว้างของแปลงควรอยู่ที่ประมาณ 3.5-5 เมตร และให้ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 1.5 เมตร จะทำให้เราสามารถจัดการเถาฟักทองให้เลื้อยกันสองด้านอย่างเหมาะสม และยังมีทางเดินสะดวกสบาย เป็นการปรับปรุงและทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น

การเตรียมดินก่อนปลูกฟักทอง

เพื่อให้ฟักทองเจริญเติบโตได้ดีในระยะแรก ควรใช้ดินที่มีลักษณะเป็นดินร่วนปนทรายและมีความชื้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม จึงควรใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักที่ผ่านกระบวนการย่อยสลายในดิน เพื่อเพิ่มความร่วนซุยของดินและความสามารถในการระบายน้ำ หากดินที่ใช้ปลูกเคยถูกเพาะปลูกมานาน ควรใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพความเป็นกรดให้เหมาะสม และควรไถดินให้ลึกประมาณ 25-30 เซนติเมตร เนื่องจากฟักทองเป็นพืชที่มีรากฝังลึกในดิน

เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูกฟักทอง

ฟักทองจะชอบอากาศร้อนและแห้ง ต้องการแสงแดดเต็มที่ตลอดทั้งวัน แต่ต้องมีความชื้นในดินที่เพียงพอด้วย อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 30 องศาเซลเซียส ในประเทศไทย ช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการปลูกฟักทอง

วิธีเลือกเมล็ดพันธุ์ฟักทอง

ในการปลูกฟักทองนั้น เรามีวิธีการเลือกเมล็ดพันธุ์ที่สามารถนำมาใช้ได้ในการขยายพันธุ์ ซึ่งมีอยู่สองแบบที่นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย คือ เมล็ดพันธุ์แบบผสมเปิด เป็นเมล็ดพันธุ์ที่สามารถเก็บไว้เพื่อขยายพันธุ์ต่อได้โดยตรง แต่ในปัจจุบัน เมล็ดพันธุ์แบบนี้หายาก เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์มักเลือกผลิตเมล็ดพันธุ์แบบลูกผสมแทน เนื่องจากสามารถให้ผลผลิตสูงและมีขนาดต้นและผลที่ดี อีกทั้งการเจริญเติบโตของพืชด้วย แต่ไม่สามารถนำเมล็ดพันธุ์ไปปลูกฟักทองขึ้นค้างต่อได้ ซึ่งไม่สามารถสร้างพันธุกรรมเหมือนกับเมล็ดพันธุ์แบบผสมเปิด ดังนั้น เกษตรกรต้องมีค่าใช้จ่ายสูงกับเมล็ดพันธุ์ฟักทอง และควรพิจารณาวิธีการปลูกที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุน

วิธีการปลูกฟักทอง

วิธีการปลูกฟักทอง

ในการปลูกฟักทองนั้น มีวิธีการที่ได้รับความนิยมอยู่สองแบบ ได้แก่

การปลูกฟักทองแบบหยอดเมล็ด

  • ขุดหลุมเล็ก ๆ ลงไปในดิน ระยะห่างประมาณ 2.5-5 เซนติเมตร แล้วรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวแล้ว
  • หยอดเมล็ดฟักทองลงไปในหลุมละ 3-5 เมล็ด
  • กลบด้วยดินผสมละเอียดหรือขี้เถ้าแกลบดำ
  • รดน้ำให้ชุ่มและคลุมด้วยฟางเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวหน้าดิน
  • ในเวลาประมาณ 3-4 วัน ต้นกล้าจะงอกพ้นพื้นดินและมีใบจริง 2-3 ใบ ให้ถอนต้นกล้าที่อ่อนแอทิ้งไป เพื่อให้เหลือหลุมละ 1 ต้นเท่านั้น

การปลูกฟักทองแบบเพาะกล้า

  • นำเมล็ดฟักทองมาล้างน้ำ 1-2 รอบ และแช่น้ำไว้ประมาณ 20-30 นาที จากนั้นห่อเมล็ดด้วยผ้าขาวบาง
  • นำเมล็ดไปบ่มไว้ในกล่องพลาสติกใสเป็นเวลา 3-5 วัน
  • เมื่อเมล็ดแตกรากออกมา จึงค่อย ย้ายไปเพาะในถาดเพาะกล้า
  • รดน้ำเป็นประจำจนต้นกล้ามีใบจริง 1-2 ใบ จากนั้นจึงย้ายไปปลูกในแปลง

การดูแลรักษาต้นฟักทอง

เมื่อต้นฟักทอง ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม เริ่มเจริญเติบโต ควรมีการดูแลรักษาเพื่อให้ฟักทองเติบโตแข็งแรงและมีผลผลิตที่ดี การดูแลรักษาฟักทองมีหลายด้าน ได้แก่ การให้ปุ๋ย เรื่องการให้น้ำ การพรวนดินและการกำจัดโรคหรือแมลงศัตรูที่อาจจะเกิดความเสียหาย ต่อไปนี้คือรายละเอียดของการดูแลรักษาฟักทอง:

การให้ปุ๋ย

ในระยะแรกของการปลูกฟักทอง เมื่อมีอายุประมาณ 10-14 วัน ควรให้ปุ๋ยที่มีส่วนประกอบของไนโตรเจน เช่น ปุ๋ยยูเรีย ในอัตรา 10-15 กิโลกรัมต่อไร่ จากนั้นให้ใส่ปุ๋ยสูตร 14-14-21 เมื่อต้นฟักทองมีอายุประมาณ 21-25 วัน โดยโรยปุ๋ยตามแถวแล้วพรวนดินกลบ จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม

การให้น้ำ

ฟักทองเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำขัง ควรให้น้ำในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นฟักทองกำลังออกดอกและติดผล ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอและไม่ควรปล่อยให้ขาดน้ำ ระบบการให้น้ำที่ดีคือการให้น้ำเข้าร่อง เพื่อให้น้ำซึมเข้าสู่ดินโดยตรง และไม่ควรพ่นน้ำผ่านใบของฟักทอง เพราะอาจทำให้ใบเปียกน้ำและเสี่ยงต่อการเกิดโรคเน่าได้

การพรวนดินและการกำจัดวัชพืช

ควรทำการพรวนดินและกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอเมื่อต้นฟักทองยังเล็ก และเมื่อต้นฟักทองเริ่มโตแล้วเลื้อยคลุมดิน จะไม่มีวัชพืชเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งจะไม่ต้องทำการพรวนดินอีกต่อไป

การกำจัดโรคหรือแมลงศัตรูที่อาจจะสร้างความเสียหาย

โรคที่มักเกิดกับฟักทองคือโรคราน้ำค้าง เป็นโรคที่เกิดทางใบ มักมีการระบาดมากในช่วงฤดูฝนหรือเมื่อให้น้ำแบบพ่นฝอย สามารถป้องกันได้โดยการไม่ให้น้ำแบบพ่นฝอย นอกจากนี้ ปัญหาแมลงศัตรูฟักทองนั้นมีไม่มากนัก เนื่องจากใบและก้านที่มีขนช่วยในการป้องกันภัยจากแมลงได้ดี

การเก็บเกี่ยวฟักทอง

สำหรับการเก็บเกี่ยวฟักทอง มีขั้นตอนและเวลาที่เหมาะสมต่างกัน ขึ้นอยู่กับพันธุ์ของฟักทอง หากเป็นฟักทองพันธุ์เล็ก สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่อฟักทองมีอายุประมาณ 45-60 วัน ส่วนฟักทองพันธุ์กลางถึงพันธุ์ใหญ่ ในกรณีที่ต้องการเก็บผลอ่อน ควรสังเกตที่เปลือกฟักทอง ผิวจะนิ่มและมีสีเขียว ส่วนเนื้อข้างในจะนุ่ม ส่วนฟักทองที่แก่จัดเต็มที่ ผิวเปลือกจะแข็ง ควรเก็บให้เหลือเถาฟักทองประมาณ 7-10 ซม. ติดมาด้วย เพื่อเพิ่มอายุการเก็บรักษาสมุนไพรไล่ยุงให้อยู่ได้นานที่สุด

เทคนิคการปลูกฟักทอง

การปลูกฟักทอง จำเป็นที่ต้องนำเทคนิคต่าง ๆ มาใช้ควบคู่ไปด้วย ซึ่งเทคนิคที่น่าสนใจใจมีดังนี้

  • การผสมเกสร เมื่อต้นฟักทองเริ่มออกดอก จะมีการแยกเพศ เป็นดอกเพศผู้และดอกเพศเมีย การปฏิสนธิของเกสรสามารถเกิดขึ้นผ่านแมลงที่มาตอมดอกฟักทองจากดอกหนึ่งไปยังอีกดอกหนึ่ง โดยแมลงจะทิ้งละอองเกสรตามร่างแมลงตัวนั้นเพื่อปฏิสนธิ หรือละอองเกสรอาจถูกสายลมพัดไปโดนกับดอกที่เหมาะสม แนวทางการดัดแปลงดอกเพศผู้ให้ดึงกลีบออกเหลือแกนละอองเดียวแล้วนำไปเคาะใส่ดอกเพศเมีย จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เกิดการปฏิสนธิได้มากขึ้น
  • การทำให้ฟักทองลูกโต เมื่อดอกฟักทองผสมเกสรแล้ว ก็จะเริ่มสร้างผลอ่อนขึ้นมา ควรให้ผ่านระยะเวลาอย่างน้อย 5 วันให้ตัดยอดออก เมื่อมีจุดที่ถูกทำลาย ต้นฟักทองก็จะส่งสารอาหารและน้ำมาใช้ในการซ่อมแซมเป็นพิเศษ อาจต้องเพิ่มปุ๋ยให้กับต้นฟักทองเพื่อให้มีสารอาหารเพียงพอ และผลฟักทองที่อยู่ระหว่างการเจริญเติบโตก็จะได้รับผลประโยชน์ดังกล่าวไปด้วย

บทสรุป

การปลูกฟักทองให้ได้ผลมากที่สุด ต้องคำนึงปัจจัยหลาย ๆ อย่างรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเตรียมพื้นที่ การเลือกเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ การดูแลรักษาให้ฟักทองเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ และการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม ซึ่งถ้าปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างถูกต้อง เราก็จะสามารถเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของฟักทองได้มากที่สุดได้ง่าย ๆ นั่นเอง

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments

บทความใกล้เคียง

ติดต่อเรา